ทริสคงเครดิต TTA-หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ “BBB”

“ทริสเรทติ้ง” คงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท “โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์” ที่ระดับ “BBB/Stable” นำเงินซื้อเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองลำใหม่และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB” ในขณะเดียวกันทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB” ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ในการซื้อเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองลำใหม่และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

อันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่บริษัทมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่เพียงพอในธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองทางเรือและธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง ตลอดจนความพยายามในการสร้างความหลากหลายของธุรกิจ และงบการเงินที่ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงจากความไม่แน่นอนของลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง ตลอดจนผลการดำเนินงานที่ยังอ่อนแอของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง และประวัติผลงานในการบริหารธุรกิจที่บริษัทซื้อกิจการมาที่ค่อนข้างจำกัด

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ผลการดำเนินงานของธุรกิจเรือขนส่งสินค้าของบริษัทดีขึ้นเป็นอย่างมากอันเป็นผลมาจากค่าระวางเรือที่สูงขึ้น โดยดัชนีค่าระวางเรือบัลติค (Baltic Dry Index — BDI) ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับค่าระวางเรือได้ฟื้นตัวและปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,217 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 จากจุดต่ำสุดที่ 673 ในปี 2559 และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ค่าระวางเรือของกองเรือที่บริษัทเป็นเจ้าของก็เพิ่มขึ้นเป็น 11,134 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวันจาก 5,155 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน โดยสูงกว่าต้นทุนในการดำเนินงานซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวันโดยเฉลี่ยเป็นอย่างมาก

ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งของบริษัทยังคงอ่อนแอซึ่งเห็นได้จากรายได้จากการให้บริการที่ไม่ใช่เรือที่ลดลงและอัตราการใช้งานของเรือที่ยังคงต่ำ บริษัทมีผลขาดทุนในครึ่งแรกของปี 2561 เนื่องจากเรือขนส่งที่สำคัญจำนวน 3 ลำจากทั้งหมด 4 ลำต้องเข้ารับการซ่อมบำรุงตามแผน จำนวนยอดงานคงค้าง (Order Backlog) มูลค่า 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ เดือนมิถุนายน 2561 นั้นถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยและมีอายุสั้น ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของรายได้และกำไรในระยะปานกลางของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ทิศทางราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงปี 2560-2561 นี้ถือเป็นปัจจัยที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากวงจรขาลงของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งของบริษัทได้บ้าง ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นน่าจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มความต้องการด้านการให้บริการใต้ทะเลให้ขยายตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าธุรกิจการให้บริการนอกชายฝั่งของบริษัทนั้นมีโอกาสที่จะฟื้นตัวดีขึ้นและน่าจะสร้างกำไรที่ดีขึ้นให้แก่กลุ่มธุรกิจของบริษัท

งบการเงินที่แข็งแกร่งยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสนับสนุนอันดับเครดิตของบริษัท กระแสเงินสดและเงินลงทุนในหลักทรัพย์มูลค่า 7,400 ล้านบาทยังถือว่ามีจำนวนมากพอที่จะรองรับความต้องการสภาพคล่องของบริษัทได้แม้จะมีจำนวนลดลงไปบ้างก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมสุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนยังอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 14.3% ณ เดือนมิถุนายน 2561 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 30% ต่อไปอีกในระยะ 3 ปีข้างหน้า ในขณะที่อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายน่าจะอยู่สูงกว่า 5 เท่า และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมโดยเฉลี่ยน่าจะอยู่สูงกว่า 15%

สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจบริการนอกชายฝั่งจะยังเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้และกำไรให้แก่บริษัทต่อไป ทริสเรทติ้งยังเชื่อด้วยว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะสภาพคล่องที่ดีและคงความสามารถในการชำระหนี้ที่น่าพึงพอใจต่อไปได้ในปีหน้า

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทมีค่อนข้างจำกัดในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของผลประกอบการในธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นได้หากผลประกอบการของบริษัทดีกว่าที่ประมาณการเป็นระยะเวลานาน ซึ่งกรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างความหลากหลายในการลงทุนจนส่งผลทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่มั่นคงมากยิ่งขึ้นในขณะที่ยังสามารถดำรงสถานะงบการเงินที่แข็งแรงเอาไว้ได้

อันดับเครดิตของบริษัทหรือแนวโน้มอาจได้รับการปรับลดลงหากผลประกอบการของบริษัทหรือกระแสเงินสดถดถอยลงจากประมาณการปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากภาวะตลาดของเรือขนส่งสินค้าและการให้บริการนอกชายฝั่งที่อ่อนแอลง รวมทั้งจากการขาดทุนอย่างหนักของธุรกิจอื่นที่บริษัทได้ลงทุนไป