HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,525.32 จุด ลดลง 19.49 จุด ขายลดความเสี่ยง-หลุดแนวรับสำคัญ 1,530 เหตุหลักจากกังวลเศรษฐกิจ ท่ามกลางรอดูหลายปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ อีกทั้งยังมีสัญญาณทุนสำรองที่น่าเป็นห่วงค่อย ๆ โผล่ชื่อมาทีละประเทศ ทั้งศรีลังกา, ลาว และครั้งนี้ก็เมียนมาร์ ทำให้คนกลัวเศรษฐกิจถดถอยจะเกิดขึ้นแต่ละประเทศ อีกทั้งเงินบาทก็ยังวิกฤตพอควร แนวโน้มภาคบ่ายคาดควรจะยืน 1,530 ให้ได้ แนวรับ 1,520 แนวต้าน 1,535 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 19 ก.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,525.32 จุด ลดลง 19.49 จุด หรือ -1.26% มูลค่าการซื้อขาย 31,292.82 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,541.55 จุด และต่ำสุด 1,520.77 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้เผชิญแรงขายลดความเสี่ยง จนทำให้ดัชนีฯหลุดแนวรับสำคัญ 1,530 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจเป็นหลัก ท่ามกลางหลายปัจจัยสำคัญที่จะต้องติดตามในช่วงนี้ ทั้งเงินเฟ้อของยูโรโซนที่จะทยอยออกมาในวันนี้, การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 11 ปี รวมถึงอาจจะมีเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากการขึ้นดอกเบี้ยด้วย, การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคงจะคงอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณของประเทศที่มีทุนสำรองที่น่าเป็นห่วงค่อย ๆ โผล่ชื่อมาทีละประเทศ ทั้งศรีลังกา, ลาว และครั้งนี้ก็เมียนมาร์ ทำให้คนกลัวเศรษฐกิจถดถอยจะเกิดขึ้นแต่ละประเทศ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ปรับตัวลงเหมือนกันแต่ไม่ถึง 1% ซึ่งตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมากกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค
“Sentiment ภาพรวมที่เกิดขึ้น ทำให้เราโดนหางเลขไปด้วย ทั้งที่ไทยมีทุนสำรองที่สูงอยู่ ตัวเลขเศรษฐกิจก็ยังใช้ได้ อีกทั้งตลาดฯปรับตัวลงมากหลังจากที่วานนี้รีบาวด์เร็วเข้าใกล้ 1,550 จุดก็ขายลดความเสี่ยง แม้เศรษฐกิจเราจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ถ้าคู่ค้าแผ่ว งบบริษัทจดทะเบียนก็มี Downside ตลาดฯจึงแกว่งในกรอบขาลงอยู่”
ตลาดฯยังมีแรงกดดันจากเงินบาทที่วิกฤตพอควร เนื่องจากช่วงสั้นเงินดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาอ่อนค่าบ้างแล้ว แต่ก็เงินบาทก็ยังไม่แข็งค่า และยังดูจะอ่อนกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอีก ทำให้ Fund Flow ไม่ไหลเข้าช่วงนี้ นักลงทุนจึงเลือกลดความเสี่ยงไปก่อน ทั้งนี้การที่เงินดอลลาร์สหรัฐช่วงสั้นอ่อนค่า อาจเป็นเพราะธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินยูโรมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้น เงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงพลิกกลับมาอ่อนค่า ดังนั้นตอนนี้คงจะต้องรอให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าก่อน
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายควรจะยืน 1,530 จุดให้ได้ ซึ่งยังมองเป็นการแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,520 จุด แนวต้าน 1,535 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCB ปิดที่ 91.75 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -3.67% มูลค่าซื้อขาย 1,985.50 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.58% มูลค่าซื้อขาย 1,438.00 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 138.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.13% มูลค่าซื้อขาย 1,391.02 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.70 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -0.78% มูลค่าซื้อขาย 1,031.20 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.72% มูลค่าซื้อขาย 977.58 ล้านบาท