“SuperRich สีส้ม” รอ ก.ล.ต. ไฟเขียวเปิดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

“SuperRich สีส้ม” เล็งเปิดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รอ ก.ล.ต. อนุมัติ คาดสิ้นปีให้บริการ SuperRich Card เอาใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ-รับชำระผ่าน QR code ตั้งเป้าอีก 3 ปีเข้าจดทะเบียนใน mai

นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด (SuperRich SPR) หรือ “SuperRich สีส้ม” ผู้ดำเนินธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เปิดเผยว่า เตรียมเปิดศูนย์บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) โดยอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งจากการเข้าหารือที่ผ่านมามีความเป็นไปได้สูง เนื่องจาก SuperRich SPR มีประสบการณ์ในธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้

นอกจากนี้ นายปิยะ กล่าวอีกว่า SuperRich SPR ยังเพิ่มการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในสังคมยุคดิจิทัลมากขึ้น โดยเปิดให้บริการรับชำระเงินจากการซื้อเงินตราต่างประเทศด้วยการสแกน QR code ลูกค้าคนไทย

พร้อมกับมีแผนที่จะร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำจัดทำบัตร SuperRich Card ซึ่งเป็นบัตรสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติ โดยแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินบาทที่สาขาของ SuperRich SPR และบันทึกมูลค่าเงินบาทเข้าไปในบัตร จากนั้นผู้ถือบัตรสามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้

นอกจากนี้ SuperRich SPR มีแนวคิดที่จะเปิดให้บริการจองเงินสกุลต่างประเทศแบบออนไลน์ (E-Booking) ผ่านทางเว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่น โดยเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยสามารถไปรับเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนที่จองไว้ได้ที่ SuperRich SPR

“สำหรับ E-Booking ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเปิดบริการได้เมื่อใด เพราะขณะนี้ยังติดปัญหาข้อกฎหมาย เนื่องจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นธุรกรรมที่ต้องทำต่อหน้า ซึ่งต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อน และยังไม่ศึกษารายละเอียดในการบริหารความเสี่ยง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว” นายปิยะ กล่าว

เมื่อเร็วๆ นี้ SuperRich SPR เปิดสาขาใหม่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 4 โซนอิเซตัน เป็นสาขาในประเทศสาขาที่ 51 เพื่อรองรับการแลกเงินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมมาซื้อของก่อนกลับประเทศ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ในปัจจุบันมี 49 สาขา ในประเทศไทยและสาขาในต่างประเทศ 2 สาขา ได้แก่ ประเทศกัมพูชา และประเทศอังกฤษ

นายปิยะ กล่าวอีกว่า “เป้าหมายสูงสุดของ SuperRich SPR คือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตั้งเป้าหมายว่า ในอีก 3 ปีจะสามารถเข้า mai ได้ เนื่องจากจะต้องพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงและพัฒนาซอฟต์แวร์ในการบริการให้รวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งการมีรายได้และกำไรที่มั่นคง

ทั้งนี้ นายปิยะ คาดว่าปีนี้ SuperRich SPR จะมีมูลค่าธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศรวม 1.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีเกือบ 1 แสนล้านบาท และมีกำไร 60 ล้านบาท

“เราตั้งเป้าที่จะทำ Profit Margin ให้ได้ 10% แต่ในปีหน้าอัตรากำไรอาจจะลดลงจากการลงทุน การเปิดสาขา โดยที่มูลค่าธุรกรรมโดยรวมไม่ได้ลดลง” นายปิยะ กล่าว