‘ทีวีไดเร็ค’ ซื้อสปริงส์นิวส์ฯ เฉียดพันล้านผ่อนจ่าย 11 ปี

นิวส์ เน็ตเวิร์กฯ(NEWS)ดิ้นอีกเฮือก เพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม คาดได้เงินประมาณ 678 ล้านบาท ขายหุ้นสปริงนิวส์ ให้ทีวีไดเร็ค จ่ายค่าหุ้น 7.6 ล้านบาท/เดือน ตลอดอายุสัมปทานถึงปี 2572 รวมเป็นเงิน 949 ล้านบาท ค่าผลิตรายการอีกเดือนละ 1 ล้านบาท และขอสิทธิขายโฆษณาด้วย 30%

บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติเพิ่มทุนจดทะเบียน 67,887,511,111 หุ้น ขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 ต่อ 1 ราคาหุ้นละ 0.01 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 678 ล้านบาท และให้บริษัทย่อยขายหุ้นบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น หรือช่องสปริงนิวส์ ทีวีดิจิตอลช่อง 19 จำนวน 90% ให้บริษัท ทีวี ไดเร็ค(TVD) โดยจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 เพราะเป็นการจำหน่ายสินทรัพย์ประเภทที่ 1 ขนาดสูงสุด 72.27%

ทางด้านคณะกรรมการบริษัททีวี ไดเร็ค มีมติอนุมัติให้ซื้อหุ้น บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่นประมาณ 90% โดยปราศจากภาระผูกพันและการรอนสิทธิใดๆ

ส่วนวิธีการชำระเงินค่าหุ้น บริษัททีวี ไดเร็ค จ่ายเดือนละ 7,655,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 949.22 ล้านบาทที่ต้องชำระตลอดอายุของใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย. 2572 นอกจากนี้ยังต้องชำระค่าผลิตรายการข่าวสารและสาระอีกเดือนละ 1,055,000 บาท ตลอดอายุใบอนุญาตเช่นเดียวกัน และให้สิทธิสปริงนิวส์ขายโฆษณาอีกประมาณเดือนละ 540,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของเวลาที่สปริงนิวส์ผลิตรายการ เดือนละ 1,595,000 บาท

สำหรับบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์และธุรกิจด้านสื่อสารมวลชนทุกชนิด โดยได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการหมวดข่าวสารและสาระ (ใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ฯ) สำหรับช่องสปริงนิวส์ ทีวีดิจิตอลช่อง 19 ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ด้านฐานะการเงินของบริษัทนิวส์ฯ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2561 มีหนี้สินรวม 1,275 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,313 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นมีเพียง 38 ล้านบาท จากการขาดทุนสะสมถึง 4,155 ล้านบาท จนถูกตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย C ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 2561 เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว

ปัจจุบันบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์คฯเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำนวน 9.96% และเมื่อปี 2559 ได้ลงทุนในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โดยทำสัญญาใช้เครื่องหมายการค้าหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลา 30 ปี มูลค่า 120 ล้านบาท ซื้อทรัพย์สินบางส่วนจำนวน 6 ล้านบาท และเงินลงทุนเริ่มต้นจำนวน 10 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 136 ล้านบาท จากบริษัท ฐานเศรษฐกิจ จำกัด