HoonSmart.com>> ผู้ถือหน่วยลงทุน “กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์ สไตล์” ไม่อนุมัติข้อเสนอ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์-เมเจอร์โบว์ล” ขอเช่าพื้นที่และรับบริการโครงการ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต หลังสัญญาเช่าและบริการเดิมสิ้นสุดลง
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์ สไตล์ (MJLF) ได้จัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุน ครั้งที่1/2565 โดยเป็นการจัดประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2565 โดยมีผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าร่วมประชุม ณ เวลาเปิดประชุมด้วยตนเองและรับมอบฉันทะทั้งหมด 30 ราย นับจำนวนหน่วยลงทุนได้ 241,498,029 หน่วย คิดเป็น 73.1812% ของหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
สำหรับวาระที่ 1 ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติไม่อนุมัติข้อเสนอขอเช่าพื้นที่และรับบริการในโครงการ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน และโครงการ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รังสิต ซึ่งเสนอโดยเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ หลังจากที่สัญญาเช่าและบริการเดิมสิ้นสุดลงและแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมตามที่จำเป็นเพื่อให้กองทุนรวมสามารถดำเนินการตามมติผู้ถือหน่วยลงทุนในวาระนี้ได้ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนด้วยคะแนนเสียง (ไม่นับรวมคะแนนเสียงของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีส่วนได้เสียพิเศษในเรื่องที่มีการขอมติ) 120,074,900 เสียง คิดเป็น 90.8640% ไม่อนุมัติข้อเสนอและมีผู้อนุมัติเพียง 12,073,099 เสียง คิดเป็น 9.1360% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ซึ่งคิดเป็นจำนวน 132,147,999 หน่วย
ในวาระนี้มีผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าร่วมประชุมเพิ่มเติม 1 ราย คิดเป็นจำนวน 143,470 หน่วย ทำให้วาระนี้มีผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองและรับมอบฉันทะจากผู้ถือหน่วยลงทุนมาประชุมรวมทั้งสิ้น 31 ราย ถือหน่วยลงทุนรวมกันทั้งหมด จำนวน 241,641,499 หน่วย คิดเป็น 73.2247% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
นอกจากนี้ในวาระที่ 2 ผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติไม่อนุมัติข้อเสนอขอเช่าพื้นที่และรับบริการในโครงการ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน และโครงการ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รังสิต ซึ่งเสนอโดยเมเจอร์โบว์ล หลังจากที่สัญญาเช่าและบริการเดิมสิ้นสุดลง และแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมตามที่จำเป็นเพื่อให้กองทุนรวมสามารถดำเนินการตามมติผู้ถือหน่วยลงทุนในวาระนี้ได้ ด้วยคะแนนเสียง ดังนี้ (ไม่นับรวมคะแนนเสียงของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีส่วนได้เสียพิเศษในเรื่องที่มีการขอมติ) มีมติ ไม่อนุมัติ 120,074,900 เสียง คิดเป็น 90.8640% และเสียงอนุมัติ 12,073,099 เสียง คิดเป็น 9.1360% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ซึ่งคิดเป็นจำนวน 132,147,999 หน่วย
ส่วนวาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติมอบหมายให้บริษัทจัดการมีอไนาจในการเจรจาและเข้าทา ข้อตกลงและเงื่อนไขของการให้เช่าและให้บริการในโครงการ โดยไม่ต้องดำเนินการจัดประชุมผู้ถอืหน่วยลงทุนอีก เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็วในการดำเนินการนำทรัพย์สินออกหาประโยชน์ได้โดยเร็วที่สุด ภายใต้สถานการณ์ซึ่งมีความผันผวนและไม่แน่นอนจากเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดหมายได้ รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน และแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมเพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องที่พิจารณาในวาระนี้ ด้วยคะแนนเสียง 136,043,799 เสียง คิดเป็น 56.2998% ส่วนไม่อนุมัติ 105,597,700 เสียง คิดเป็น 43.7002% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ซึ่งคิดเป็นจำนวน 241,641,499 หน่วย
ทั้งนี้ สัญญาเช่าและสัญญาให้บริการที่เกี่ยวข้องสำหรับโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และโครงการเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ครบกำหนด ในวันที่ 26 มิ.ย.2565 และผู้เช่าพื้นที่ในปัจจุบันได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้าทำสัญญาเช่าและสัญญาให้บริการฉบับใหม่ โดยมีการคิดค่าธรรมเนียมค่าเช่าและค่าบริการในอัตรา 15% ของรายได้จากการให้บริการโรงภาพยนตร์และโบว์ลิ่ง โดยได้ยื่นข้อเสนอให้บลจ.กสิกรไทยพิจารณา
นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และการเกิดสงครามในต่างประเทศ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยยะสำคัญต่อเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างไม่สามารถคาดหมายได้ ทำให้การดำเนินธุรกิจมีความเสี่ยงและความผันผวนกว่าในอดีตที่ผ่านมามากยิ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้การจัดการและการหาประโยชน์จากทรัพย์สินต้องการความยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ บลจ.กสิกรไทยจึงเห็นสมควรให้มีการเรียกประชุมวิสามัญของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม
ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุน MJLF ณ วันปิดสมุดทะเบียน 9 มิ.ย.2565 อันดับ 1. บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ถือ 33% 2.สำนักงานประกันสังคม 30.93% 3.บริษัทเมืองไทยประกันภัย 4.87% 4.ธนาคารออมสิน 2.82% 5.บริษัททิพยประกันชีวิต 1.77% 6.นายประภาพ จินนากร 0.55% 7.บริษัทโรงพยาบาลรามคำแหง 0.52% 8.บริษัทซัมซุง ประกันชีวิต (ประเทศไทย) 0.42% 9.นาย สุธรรม ชูสร้อยปิ่น 0.42% และ 10.กองทุนเปิดวรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ 0.40%