“ไวส์ โลจิสติกส์” ตั้งเป้ารายได้โตปีละ 25-30% คาดปี 2563 ไปถึง 3,000 ล้านบาท ยอมรับครึ่งปีแรกแผ่วไป หวังครึ่งปีหลังเข้าไฮซียอดขึ้น เข้าเป้าปีนี้ 1,800 ล้านบาทแน่นอน รุกขนส่งข้ามแดนระหว่างจีน-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ในแต่ละปีไว้ที่ 25-30% และคาดว่าในปี 2563 รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท จากปี 2561 ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1,800 ล้านบาท
“สำหรับปีนี้ รายได้ในครึ่งปีแรกอาจจะแผ่วไปนิดหน่อย เพราะเป็นช่วง low season แต่คาดว่า ครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ทำให้มั่นใจว่า รายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1,800 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 30% ” นายชูเดช กล่าว
นายชูเดช กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 4 WICE จะมีรายได้จากบริษัทร่วมทุนใหม่ชื่อ บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ หรือ ETL ประมาณ 200 ล้านบาท และคาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้ารายได้จาก ETL จะเติบโตขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จาก ETL จะเป็น 10% ของรายได้รวมในปี 2562 และเพิ่มเป็น 20% ในปี 2563
บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ (ETL) ให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างประเทศจีน ฮ่องกงและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุม 7 ประเทศในโมเดลเส้นทางการขนส่งข้ามชายแดน (Cross Border) ตามเส้นทาง One Belt One Road ของจีน มีทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท โดย WICE ถือหุ้น 40% ใช้เงินลงทุน 28 ล้านบาท มาจากเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท, Mr.Lee Yik Chieh (Malaysian) ถือหุ้น 30% และ น.ส.กฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย ถือหุ้น 30%
“ในปัจจุบันการขนส่งข้ามชายแดนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมี ความตกลงการค้าเสรี (FTA) แต่ปัญหา คือ ความล่าช้าและมีข้อจำกัดในการเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าทำให้ไม่สะดวก สินค้าเสียหาย แต่เราจะเสนอบริการการขนส่งแบบไร้รอยต่อ คือ บรรจุครั้งเดียวจากโรงงานต้นทางส่งถึงปลายทาง โดยไม่มีการเปิดตู้ย้ายของ ด้วยระบบ Smart Lock, CCTV, GPS และ Command Center รวมทั้งประกันสินค้าเสียหาย เพื่อให้ลูกค้าสบายใจ” นายชูเดช กล่าว
นายชูเดช กล่าวอีกว่า ต้นทุนค่าขนส่งทางรถจะอยู่ระหว่างการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) ทางอากาศ (Air Freight) ขณะที่ใช้เวลาเร็วกว่าการขนส่งทางทะเล และสามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้ เช่น เส้นทางขนส่งทางรถจากไทยไปเซียงไฮ้ใช้เวลาประมาณ 6 วัน แต่ทางทะเลใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ ในอนาคต ETL จะตั้งโลจิสติกส์ฮับที่มณฑลฉางซา ซึ่งเป็นตำแหน่งยุทธศาสตร์สามารถกระจายสินค้าเข้าไปในจีนได้ง่าย และส่งสินค้าต่อไปยุโรปและตะวันออกกลางได้สะดวก ทั้งทางรถและทางราง
“บริษัท ETL จะทำให้ WICE สามารถขยายตลาดต่างประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน โดยที่จีนเป็นตลาดขนส่งขนาดใหญ่มีความต้องการด้านงานโลจิสติกส์สูง ทำให้มีโอกาสในการขยายฐานลูกค้า พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยงานบริการด้านต่างๆ กับกลุ่มลูกค้าหลากหลายประเภท รวมทั้ง E-commerce ระหว่างประเทศ” นายชูเดช กล่าว
นายชูเดช กล่าวอีกว่า ในระยะ 3 ปีแรก บริษัท ETL คาดว่าจะใช้เงินทุนทั้งหมด 140 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากการระดมทุน 70 ล้านบาท และอีก 70 ล้านบาทเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหากเป็นไปตามที่คาดไว้ ในอนาคตบริษัทคาดจะนำ ETL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
นอกจากนี้ นายชูเดช กล่าวว่า WICE ยังอยู่ระหว่างการเจรจากันพันธมิตรทางธุรกิจด้านโลจิสติกส์ในต่างประเทศ 2-3 ราย ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่ต้องการขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม