ศาลปกครองกลางชี้ กสทช. มีอำนาจห้ามควบรวม ทรู-ดีแทค

HoonSmart.com>>ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งชัด กสทช.มีอำนาจสั่งห้ามควบรวม ทรู-ดีแทค ตามประกาศปี 61  และ ปี 49 หากเสี่ยงผูกขาด เป็นเหตุให้ยกคำร้อง “ณภัทร วินิจฉัยกุล” จับตา 10 ก.ค. 2565 นี้ บอร์ด กสทช.จะมีมติเกี่ยวกับดีลควบรวมอย่างไร

ณภัทร วินิจฉัยกุล

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความชัดเจนเรื่องการพิจารณาดีลการควบรวมธุรกิจระหว่างทรู (TRUE) และดีแทค (DTAC )  เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากหลายฝ่ายถกเถียงเกี่ยวกับอำนาจของ กสทช. ว่ามีอำนาจ “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต” การควบรวม

ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่นายณภัทร วินิจฉัยกุล นักกฎหมาย หรือ อดีตหนี่งในซูเปอร์บอร์ด กสทช. ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยมีบอร์ดกสทช.เป็นผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  และขอให้ทุเลาชั่วคราวคำสั่งประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค.2560 (“ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ”)

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่รับการขอทุเลาชั่วคราวของนายณภัทร ที่ยื่นต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ ไว้ก่อน

ศาลปกครองกลาง ได้พิจารณาจากประกาศควบรวมปี 2561 ประกอบกับประกาศ เรื่อง ป้องกันการผูกขาดปี 2549 และได้ให้เหตุผลที่สำคัญในการยกคำร้องว่า “… หากผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) พิจารณาเห็นว่าการรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดการผูกขาด หรือลด หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการโทรคมนาคม ผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) ก็มีอำนาจสั่งห้ามการรวมธุรกิจได้

ดังนั้น ในชั้นนี้ จึงยังรับฟังไม่ได้ว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2560 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย…”  ซึ่งคำสั่งที่ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวนี้ถือเป็นที่สิ้นสุด จะอุทธรณ์ต่อไปไม่ได้

ดังนั้น ถือว่าเจตนารมณ์ในการร้องของนายณภัทร ที่เรียกร้องให้ กสทช. ใช้อำนาจที่มีอยู่ในการพิจารณาสั่งไม่อนุญาตการควบรวมนั้น ได้บรรลุผลไปแล้วในขั้นแรก เพราะที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. และกสทช.ชุดเดิม อ้างอิงแต่การนำฉพาะประกาศปี 2561 มาอธิบายว่า ตนมีหน้าที่แค่รับทราบการขอควบรวมกิจการเท่านั้น และไม่มีอำนาจสั่งห้ามการควบรวมได้ จึงเป็นเหตุให้นายณภัทร ต้องมาฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากนี้ไป ก็ต้องจับตามองไปที่ กสทช. ชุดใหม่ว่า จะพิจารณาดีลควบรวมนี้อย่างไร เพราะศาลปกครองได้ระบุอย่างชัดเจนแล้ว กสทช. มีอำนาจเด็ดขาดที่จะ “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต” ดีลการควบรวมนี้ ไม่ใช่แค่รับทราบและปล่อยผ่านไป ซึ่งตามที่อนุกรรมการด้านกฎหมายที่กสทช.ตั้งขึ้นมา มีเสียงเกือบเป็นเอกฉันท์ไปก่อนหน้านี้แล้ว 10 ต่อ 1 โดยระบุว่า กสทช.มีอำนาจที่จะพิจารณาไม่อนุญาตดีลนี้ได้

ดังนั้น คงต้องจับตาดูว่า ภายในวันที่ 10 ก.ค. 2565 นี้ บอร์ด กสทช.จะมีมติเกี่ยวกับดีลควบรวมดังกล่าวนี้ออกมาอย่างไร