บล.พายคัด 11 หุ้น เก็งกำไรระยะสั้น คาดดัชนีสัปดาห์นี้ 1,540 – 1,580 จุด

HoonSmart.com>> บล.พาย มองตลาดหุ้นสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1540 – 1580 จุด ติดตามภาคอสังหาฯ ในสหรัฐ แนะเก็งกำไรระยะสั้นคาดดัชนีฟื้นตัวช่วงสั้น คัด 11 หุ้นกลุ่มส่งออก ท่องเที่ยว ค้าปลีก สื่อสาร แนะ “ASIAN, TU,AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA, BJC, CPALL, ADVANC, INTUCH

บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย (Pi) เปิดเผยว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้น Dow Jones ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.1% แรงกดดันยังมาจากปัจจัยเดิมๆ อาทิ การเร่งขึ้นดอกเบี้ยรวมถึงภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันจะเป็นตัวกดดันเศรษฐกิจสหรัฐและอาจถึงขั้นเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับฐานแรง 5.58% จากหน้าข่าวรายงานว่าตลาดเริ่มวิตกกังวลกับฝั่งอุปสงค์ที่อาจจะหายไป ผลพวงจากคาดการณ์ของตลาดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย มองเป็นลบต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และโรงกลั่น (BCP SPRC TOP)

ด้านค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อเนื่องทดสอบระดับ 35.2 นับเป็นการอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี มองเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออก (ASIAN TU) อย่างไรก็ตามเป็นลบกับนักลงทุนต่างชาติที่มีโอกาสขายสุทธิออกมาต่อเนื่อง

ส่วนในประเทศวันศุกร์ที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้ประกาศยกเลิก Thailand Pass สำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งจะทำให้การเดินทางเข้าประเทศไทยทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เท่ากับว่าปัจจุบันการเดินทางเข้าประเทศไทยของต่างชาติกลับไปเสมือนก่อนเกิด COVID-19 เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW MINT.SPA) ข้อมูลล่าสุดจาก ศบค. ระบุว่า 2 สัปดาห์แรกของ มิ.ย. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยเฉลี่ยวันละ 1.07 แสนคน (+3,900%YoY) จากนี้คาดหวังว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพราะ Thailand Pass จะถูกยกเลิกตั้งแต่ ก.ค. เป็นต้นไป

สัปดาห์นี้ไม่ได้ปัจจัยสำคัญอย่างมีนัยยะเท่าใดนัก ด้านในประเทศจะมีการรายงานมูลค่าค้าขายระหว่างประเทศประจำเดือน พ.ค. ในวันที่ 22 พ.ค. Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกจะขยายตัว 8.3%YoY และนำเข้าจะขยายตัว 17.5%YoY แต่คาดดุลการค้าจะติดลบราว 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยดุลการค้าที่ยังติดลบจึงมีแนวโน้มที่เงินบาทจะยังคงทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง

สัปดาห์นี้จึงเป็นไปได้ที่อาจมีแรงกดดันจากนักลงทุนต่างชาติสอดคล้องกับช่วงผ่านมาที่เห็นแรงขายสุทธิออกมาจากนักลงทุนต่างชาติ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สัปดาห์นี้จะเน้นไปทางตัวเลขอสังหาฯ โดยวันอังคารช่วงกลางคืนตามเวลาประเทศไทยจะมีการรายงานยอดขายบ้านมือสองประจำเดือน พ.ค. Bloomberg Consensus คาดที่ 5.4 ล้านหลังคาเรือนและวันศุกร์จะมีรายงานยอดขายบ้านหลังแรกประจำเดือน พ.ค.

Bloomberg Consensus คาดที่ 5.92 แสนหลังคาเรือน เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนยอดขายบ้านหลังแรกและมือสองเริ่มลดลงต่อเนื่องและปัจจุบันดอกเบี้ยกู้บ้าน 30 ปีของสหรัฐฯปรับขึ้นต่อเนื่องทดสอบระดับ 6% สูงสุดในรอบ 13 ปี ดังนั้นจากนี้ต้องติดตามภาคอสังหาฯสหรัฐใกล้ชิด หากมีสัญญาณของการทรุดตัวลงต่อเนื่องอาจตามมาด้วยอัตราการว่างงานที่จะเริ่มสูงขึ้นในช่วงถัดไป ส่วนการรายงานในสัปดาห์นี้หากต่ำกว่าตลาดคาดจะเป็นปัจจัยกดดันเพราะปัจจุบันตลาดเริ่มกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

“สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1540 – 1580 เชิงกลยุทธ์การลงทุนมองตลาดหุ้นช่วงสั้นเข้าสู่การฟื้นตัวหลังปรับฐานมาแรง แต่ยังให้น้ำหนักเพียงฟื้นสั้นๆระยะสั้นแนะ Trading ส่งออก (ASIAN, TU) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) ค้าปลีก (BJC, CPALL) สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)”บล.พาย ระบุ

CENTEL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท) ผลประกอบการของบริษัทจะยังโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้าจนแตะระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในปี 2023 ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมา EBITDA เป็นบวกต่อเนื่อง พร้อมมองครึ่งปีหลังของปี 22 จะสดใสมากกว่าครึ่งปีแรกหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศของภาครัฐ

CPALL (ถือ / ราคาเป้าหมาย 66.50 บาท) แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะค่อยๆดีขึ้นหลังจากมีการเปิดประเทศ โดยต้องติดตามว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากน้อยเพียงใด รวมถึงการรับรู้โลตัสจะทำให้ผลประกอบการขยายตัวเมื่อเทียบ YoY พร้อมมองราคาหุ้นปัจจุบันน่าสะสมสำหรับระยะกลาง – ยาว