“ฐิติกร” ออกหุ้นกู้อีก 150 ล้านบาท เพื่อบริหารต้นทุนทางการเงิน ล็อคต้นทุนดอกเบี้ยขาขึ้น ต้นทุนการเงินเฉลี่ยลดเหลือ 2.50% ต่อปี มั่นใจพอร์ตเช่าซื้อเติบโต 10% ในปีนี้ตามเป้าหมาย
น.ส.ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า หลังจากออกหุ้นกู้มูลค่า 150 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของ TK จะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ประมาณ 2.50% ต่อปี จากปัจจุบันต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยประมาณ 2.51%ต่อปี และสัดส่วนเงินกู้ระยะยาว ต่อ เงินกู้ระยะสั้น ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 65:35 โดยเงินกู้ส่วนใหญ่ประมาณ 93% เป็นแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่
ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ Debt Equity Ratio (D/E Ratio) ของ TK ยังต่ำมากคือเพียง 1.20 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ D/E Ratio ของบริษัทอื่นในธุรกิจเดียวกันที่สูงถึง 6-7 เท่า
หุ้นกู้ครั้งเป็นการออกครั้งที่ 3 ของปีนี้ โดยเป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 150,000 หน่วย มูลค่าเสนอขายหุ้นละ1,000 บาท มีอายุ 1 ปีนับจากวันออกหุ้นกู้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.0% ต่อปี เสนอขายแก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจงจำนวนไม่เกิน 10 ราย โดยกำหนดวันออกหุ้นกู้ในวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561 และครบกำหนดไถ่ถอน ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2562
“วัตถุประสงค์สำคัญของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการรับมือกับภาวะอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาขึ้น ด้วยการทยอยล็อคต้นทุนทางการเงินของบริษัท เพื่อควบคุมต้นทุนทางการเงินในการดำเนินธุรกิจ” น.ส.ปฐมา กล่าว
น.ส.ปฐมา มั่นใจว่า หุ้นกู้ชุดใหม่นี้ จะได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นเคยเพราะ TK ถือเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลดี โดยบริษัทฯ ได้รับเครดิตเรตติ้งจากทริสในระดับ A- จึงสามารถออกหุ้นกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ดี ทำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด อีกทั้งผู้ซื้อหุ้นกู้ต่างมีความมั่นใจว่าจะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเมื่อครบกำหนด
นอกจากนี้ น.ส.ปฐมา กล่าวอีกว่า ในปีนี้ TK ยังคงมีเป้าหมายการเติบโตของลูกหนี้สินเชื่อของกลุ่มไว้ที่ 10% โดยในครึ่งปีแรก รายได้เติบโตประมาณ 8% เป็น 1,924 ล้านบาท จาก 1,778 ล้านบาทในปี 2560
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย จากการขยายสาขาทั้งในประเทศและในตลาดต่างประเทศ ควบคู่กับการควบคุมต้นทุนอื่นๆ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการล็อคต้นทุนทางการเงินด้วยการออกหุ้นกู้ซึ่งเป็นเครื่องมือที่บริษัทฯ ใช้มาอย่างต่อเนื่อง
น.ส.ปฐมา ให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดรถจักรยานยนต์ว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยในไตรมาส 3 ปีนี้คาดว่าจะปิดไตรมาสด้วยยอดขายใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งมีปัจจัยบวกมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรหลักของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น และผลผลิตที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดมากกว่าปีก่อน การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดีมากกว่า 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่า GDP ในไตรมาส 2 ปี 2561 จะเติบโตชะลอลงเล็กน้อยที่ 4.6% จากไตรมาส 1 ปี 2561 ซึ่งอยู่ 4.9% ในช่วงครึ่งปีแรกยอดลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อสุทธิเติบโตขึ้น 3.5%
ทั้งนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ลงวันที่ 27 กันยายน 2560 และที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ลงวันที่ 25 เมษายน 2561 ได้มีมติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท ตามลำดับ คณะกรรมการได้มอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหาร เป็นผู้มีอำนาจในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 บริษัทได้ออกหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2561 มูลค่า 600 ล้านบาท และได้ออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2 มูลค่า 70 ล้านบาท เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไปแล้วนั้น และล่าสุด เมื่อวันที่ 18 กันยายน บริษัทฯ ได้ประกาศออกหุ้นกู้ ครั้งที่ 3/2561 มูลค่า 150 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่ออกทั้ง 3 ครั้ง มีมูลค่ารวม 820 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีวงเงินหุ้นกู้คงเหลือ ก่อนการประกาศออกหุ้นกู้ครั้งล่าสุดนี้รวม 3,130 ล้านบาท