HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดร่วง 32.44 จุด สะท้อนความเป็นจริงที่กำไรจะออกมาไม่ดี จากบอนด์ยีลด์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้มีการโยกเงินไปตลาดพันธบัตรเพราะให้ผลตอบแทนดีกว่า หลังเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย หุ้นควรจะเทรด P/E ที่ต่ำลง โดยวันนี้ดัชนีหลุดจุดต่ำสุดสองแนวทั้ง 1,580 และ 1,578 จุด พร้อมมองรอบนี้ดัชนีฯมีโอกาสลงลึกได้ถึง 1,500 และยืนได้สูงสุด 1,660 จุด นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 5,799.70 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 6,288.42 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้หุ้นขาลงจะเป็นการปรับตัวลงสลับกับการรีบาวด์ โดยไม่ควรหลุดแนวรับเส้น 200 วันที่ 1,560 แนวต้าน 1,580 จุด ถ้าพรุ่งนี้ดัชนีฯไม่รีบาวด์ก็มีโอกาสที่จะลงลึก
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 16 มิ.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,561.10 จุด ลดลง 32.44 จุด หรือ -2.04% มูลค่าซื้อขาย 97,738.02 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,607.19 จุด ต่ำสุด 1,560.94 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 5,799.70 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 293.83 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 6,288.42 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 194.89 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงแรง เริ่มสะท้อนความเป็นจริงจากกำไรที่คาดว่าจะออกมาไม่ดี จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่สูง หุ้นก็ควรจะเทรด P/E ที่ต่ำลง ในเชิงพื้นฐานหุ้นควรจะปรับตัวลงได้แล้วแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ปรับตัวลง จากที่นักลงทุนต่างชาติไม่ขายหุ้นซะที มันเป็นความรู้สึก ทำให้นักลงทุนไม่ขายเหมือนกัน แต่ครั้งนี้บอนด์ยีลด์มีโอกาสที่จะสูงขึ้นได้อีก ทำให้มีการโยกเงินลงทุนไปที่ตลาดพันธบัตรแทน เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
“หุ้นไทยควรจะปรับพอร์ตอยู่แล้ว จากแนวโน้มบอนยีลด์ที่อาจจะสูงกว่านี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดดยอาจไปถีง 4% ในปีนี้ ซึ่งครั้งนี้ขึ้นไป 0.75% ครั้งหน้าก็จะปรับขึ้น 0.75% เมื่อบอนด์ยีลด์ขึ้น หุ้นก็ควรจะลง”
ทั้งนี้ ดัชนีฯได้หลุดจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,580 จุด (เมื่อ 9 พ.ค.65) และจุดต่ำสุดที่ 1,578 จุด (เมื่อ 7 มี.ค.65) และดัชนีฯจะมีจุดต่ำสุดถัดไปที่ 1,563 และ 1,512 จุด แต่รอบนี้มองดัชนีฯมีโอกาสลงลึกได้ถึง 1,500 จุด และยืนได้สูงสุดที่ 1,660 จุด
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 17 มิ.ย.2565 หุ้นขาลงจะเป็นลักษณะของการปรับตัวลงสลับกับการรีบาวด์ โดยไม่ควรหลุดแนวรับเส้น 200 วันที่ 1,560 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,580 จุด ถ้าพรุ่งนี้ดัชนีฯไม่รีบาวด์ก็มีโอกาสที่จะลงลึกไปได้ พร้อมให้ติดตามการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน, การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ คาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพรุ่งนี้ คาดจะคงอัตราดอกเบี้ย
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -3.47% มูลค่าซื้อขาย 6,406.10 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -1.33% มูลค่าซื้อขาย 4,762.35 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.90 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -3.01% มูลค่าซื้อขาย 3,178.04 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 135.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.10% มูลค่าซื้อขาย 3,168.06 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 199.50 บาท ลดลง 6.50 บาท หรือ -3.16% มูลค่าซื้อขาย 2,998.06 ล้านบาท