บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นฟื้นตามภูมิภาค แนะ AOT-BDMS

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ฟื้นตัวตามตลาดภูมิภาค รับเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ตามคาด เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวแบบ Soft Landing แนวต้าน 1,610 – 1,615 จุด ส่วนแนวรับ 1,590 จุด แนะซื้อเก็งกำไรกลุ่มแบงก์รับดอกเบี้ยขาขึ้น ชี้เป้า KBANK, BBL, SCB, KTB หุ้นกลุ่มอาหารส่งออก รับอุปสงค์อาหารสูงขึ้น หุ้นเด่นวันนี้แนะ AOT-BDMS

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เช้านี้คาดฟื้นตัวตามดัชนีภูมิภาค หลังเฟดชี้เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวในแบบ Soft Landing วางแนวรับดัชนีที่ 1,590 แนวต้าน 1,610 – 1,615 แนะนำซื้อเก็งกำไร KBANK, BBL, SCB, KTB (+ดอกเบี้ยขาขึ้น)/ ASIAN, TU, TFG (+อุปสงค์อาหารสูงขึ้น)

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ฟื้นตัว หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.75% อยู่ที่ 1.50 – 1.75% โดยเจอโรม พาวเวลเผยอาจปรับอีก 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุม 27 ก.ค. ช่วยลดความกังวลจะขึ้นครั้งละ 0.75% เป็นปกติ ส่วน Fed Dot Plot คาดดอกเบี้ยสหรัฐสิ้นปีนี้ที่ 3.4% ปี 66 ที่ 3.8% และปี 67 ที่ 3.4%, ขณะที่ GDP สหรัฐปีนี้คาด +1.7% ลดลงจากเดิมคาด +2.8% และปี 66 คาด +1.7% ส่วนเงินเฟ้อสหรัฐปีนี้คาด +5.2% เพิ่มจากเดิมคาด +4.3% คาดจะลดลงอยู่ที่ 2.6%, 2.2% ในปี 66, 67 ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนเฟดเชื่อสามารถคุมเงินเฟ้อ โดยไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ( Soft Landing )

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2H64/65 คาดเห็นโมเมนตัมการฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นระยะ ด้วยการยกเลิกมาตรการ Test & Go และไม่ต้องตรวจ RT-PCR ตั้งแต่ 1 พ.ค.65 ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่นักเดินทาง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนดีกว่าคาดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ผ่านจุดสูงสุดมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว โดยจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารรวมในเดือน เม.ย.65 เพิ่มขึ้น +10%MoM (+28%YoY) / +23%MoM (+95%YoY) เดือน พ.ค.65 เพิ่มขึ้น +1%MoM (+237%YoY) / +13%MoM (+923%YoY) และเพิ่มขึ้นต่อในช่วง 11 วันแรกของเดือน มิ.ย.65 เกินเท่าตัวเทียบปีก่อน

หุ้น BDMS (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท) กำไรสุทธิ 1Q65 อยู่ที่ 3,443 ลบ. (+157.20%YoY, +30.62%QoQ ) ฟื้นตัวได้ดีตามอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยในช่วง 1Q65 อยู่ที่ระดับ 80% (เพิ่มจาก 4Q64 ที่ระดับ 70% และ เพิ่มจาก 1Q64 ที่ 46%) ยังคงรับแรงหนุนจาก Covid-19 สำหรับการดำเนินในช่วงถัดๆไปถึงแม้เราคาดว่ารายได้ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ Covid-19 จะลดลง แต่ด้วยแรงหนุนจากรายได้ผู้ป่วยปกติ และผู้ป่วยต่างชาติที่เริ่มกลับมาหลังเปิดประเทศ จะสามารถ outweight ปัจจัยลบดังกล่าวได้ โดยเฉพาะในช่วงหลังรอมฎอน(ปีนี้หลังวันที่ 1 พฤษภาคม) ผู้ป่วยชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลาม เสร็จสิ้นจากการถือศีลอด มักจะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อรับการรักษาตัว ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิ ปี65 และ ปี66 ของ BDMS อยู่ที่ระดับ 9,271 ลบ.( +16.82%YoY) และ 10,088 ลบ.(+8.81%YoY) ตามลำดับ