‘อนันดา’ ปิดขายหุ้นกู้เกลี้ยง 3 พันลบ. เดินหน้าลุยโครงการใหม่ตามแผน

HoonSmart.com>> “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” ประกาศผลสำเร็จหลังปิดขายหุ้นกู้ 2 รุ่นให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปได้ครบตามจำนวน มูลค่า 3,000 ล้านบาท สะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุน พร้อมเดินหน้าลุยโครงการใหม่ตามแผน ด้วยโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ชี้การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มและการเปิดเมือง หนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจคึกคักขึ้น ผลดีชัดเจนต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 10 และ 13-14 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า หุ้นกู้ฯ ดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากผู้ลงทุน ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถปิดการขายได้เต็มจำนวนในวงเงิน 3,000 ล้านบาท โดยเป็นการเสนอขายผ่านสถาบันการเงิน 7 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย)

“หลังจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าโครงการต่างๆ ตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทฯ มีโครงการพร้อมอยู่ที่พร้อมส่งมอบในระยะเวลา 2 ปี อีกกว่า 58,725 ล้านบาท และยังเตรียมรับรู้รายได้ใน 2 โครงการที่สร้างเสร็จล่าสุดมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่อีก 6 โครงการที่เตรียมจะปิดการขายภายในปีนี้มูลค่ากว่า 9,812 ล้านบาท รวมถึงแผนการเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ และยังมีกระแสเงินสดที่รับรู้รายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) อย่างต่อเนื่องจากโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อีก 5 โครงการ” นายชานนท์ กล่าว

สำหรับปัจจัยสนับสนุนความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะมาจากผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงระยะเวลาของหุ้นกู้ฯ ที่ไม่ยาวเกินไปแล้ว ความเสี่ยงของหุ้นกู้ฯ ที่ยังอยู่ในระดับที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ เนื่องจากได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ที่ระดับ “BBB-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ซึ่งเป็นระดับ “ลงทุนได้” (Investment grade) บริษัทฯ ยังเชื่อว่า จังหวะเวลาในการเสนอขายอยู่ในช่วงที่เหมาะสม เพราะผู้ลงทุนมีความมั่นใจกับทิศทางและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งการเปิดเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอย มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย