หุ้นอาหารสดใส W ลุยเพิ่มทุนเสริมแกร่ง รับแผนขยับปีก

HoonSmart.com>>ฟ้าเปิด !!! หุ้นอาหารสดใส W ลุยเพิ่มทุน 180.86 ล้านหุ้นเศษ จัดสรรผู้ถือหุ้นเดิม  9 : 2 ราคา 3.30 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 1 -20 มิ.ย.2565 นี้ รองรับแผนขยายสาขาโดมิโน พิซซ่า และร้านอาหาร 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่าน ส่งผลกระทบโดยตรงกับหุ้นในกลุ่มอาหารที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง และการล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง การเดินหน้าเข้าร้านอาหารน้อยลง

หลายบริษัทฯ ต่างปรับตัวรับกระแส New Normal ธุรกิจ Delivery เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทดแทนรายได้ส่วนหนึ่งที่หายไป

ภาพการปรับตัวลงของรายได้และกำไรของหุ้นกลุ่มอาหารในช่วง 1-2 ปี เห็นได้อย่างเด่นชัด หลายบริษัทฯรายได้และกำไรปรับตัวลดลง ขณะที่บางบริษัทฯประสบปัญหาขาดทุน

ในปี 2563-2564 บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ “แบรนด์ ZEN Musha” ขาดทุนสุทธิ 63.66 ล้านบาท และ 91.57 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้อยู่ที่ 2,333.39 ล้านบาท และ 2,255.32 ล้านบาท ตามลำดับ

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) เจ้าของร้านสุกี้ภายใต้ “แบรนด์ MK” ร้านอาหารญี่ปุ่น ยาโยอิ กำไรสุทธิอยู่ที่ 907.37 ล้านบาท และ 130.98 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้อยู่ที่ 13,655.26 ล้านบาท และ 11,368.01 ล้านบาท ตามลำดับ

บริษัท อาฟเตอร์ ยู  (AU) เจ้าของร้านขนมหวานภายใต้ “แบรนด์ อาฟเตอร์ ยู” มีกำไรสุทธิ 55.47 ล้านบาท และ 4.45 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้อยู่ที่ 774.80 ล้านบาท และ 628.83 ล้านบาท ตามลำดับ

บริษัท วาว แฟคเตอร์  (W) เจ้าของแบรนด์ร้านอาหาร Kagonoya, Le Beouf, BAKE WORKS และ Domino’s Pizza ขาดทุนสุทธิ 238.81 ล้านบาท และ 276.45 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม อยู่ที่ 419.89 ล้านบาท และ 426.22 ตามลำดับ

หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดเริ่มคลี่คลาย และในวันที่ 1 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยประกาศ “เปิดประเทศเต็มรูปแบบ” ด้วยการยกเลิกมาตรการ Test & Go โดยผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ไม่ต้องตรวจหาเชื้อเมื่อมาถึง

รวมถึงคลายล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ร้านอาหารกลับมาเปิดได้ตามปกติ ทำให้ธุรกิจร้านอาหาร เริ่มเห็นสัญญาณฟ้าเปิด และกำลังเข้าสู่โหมดของการกลับมา “เติบโตรอบใหม่”

ปัจจัยดังกล่าว เป็นที่มาของแผนเพิ่มทุน W  ซึ่งได้รับสัญญาณ “ไฟเขียว” จากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่ประกาศพร้อมใส่เงินสดเต็มหน้าตักรับแผนเพิ่มทุน เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจ สร้างโอกาสเติบโต รองรับการเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ พร้อมกับมั่นใจว่าแนวโน้มธุรกิจในปีนี้ จะพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง

W มีแผนเพิ่มทุนจำนวน 180.86 ล้านหุ้นเศษ จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในสัดส่วน 9 : 2 ราคา 3.30 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 1 -20 มิ.ย.2565 นี้

“W เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปใช้รองรับแผนขยายสาขาโดมิโน่พิซซ่า และขยายสาขาธุรกิจอาหารในเครือ รวมไปถึงโปรเจคใหม่ที่ถือเป็น Pilot Project ของ W ที่พร้อมลุยธุรกิจร้านอาหารในลักษณะ F&B Partner ของโรงแรม ผ่านการร่วมลงทุนกับเชฟดีเค (Deepanker Khosla) โดยเปิดสาขาที่โรงแรม Somerset พระราม 9 เป็นแห่งแรก ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งมั่นใจเป็น New S Curve ผลักดันผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในปีนี้ พลิกมีกำไร โดยมีแผนเปิดสาขาอีก 5 แห่งภายใน 1-2 ปีนี้”

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 บริษัทฯ จะยังคงรักษาความสามารถในการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยหนุนเรื่องการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ และความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุน วัตถุดิบ บุคลากรและค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนของบริษัทฯ

ส่วนแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 65 บริษัทฯ ยังคงผลักดันการเพิ่มยอดขายของทุกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Kagonoya, Le Beouf, BAKE WORKS และ Domino’s Pizza โดยจะขยายสาขา พัฒนารูปแบบร้าน พัฒนาสินค้าและวัตถุดิบ และปรับเมนูของทุกแบรนด์ให้มีความหลากหลายและดึงดูดความสนใจของลูกค้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Domino’s Pizza บริษัทฯ ตั้งเป้าจะเพิ่ม Market Share ในตลาด โดยเร่งการขยายสาขาให้ได้ประมาณ 50 สาขา ภายในไตรมาส 3/65 เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุนเร็วที่สุด

ล่าสุด W ประกาศร่วมลงทุนกับเชฟดีเค (Deepanker Khosla) ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตธุรกิจแบบ Horizontal Integration ให้ครอบคลุมถึงธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม โดยสาขาแรกจะเปิดดำเนินการที่โรงแรม Somerset พระราม 9 มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในเดือน มิ.ย.65 นี้ เพื่อให้บริการ Breakfast, Lunch, Dinner, Room Service, Pool Bar, และ Banquet สำหรับร้านอาหารในโรงแรมแบบครบวงจรโครงการอื่น ๆ จะเริ่มก่อสร้างต่อไปตามลำดับ

สาขาถัดไปคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/65 ซึ่งจะเข้ามาหนุนให้ยอดขายบริษัทเติบโตมากขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งมั่นใจเป็น New S Curve ผลักดันผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในปีนี้พลิกมีกำไร โดยมีแผนเปิดสาขาอีก 5 แห่งภายใน 1-2 ปีนี้