หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์เดี้ยง หวั่นมาร์จิ้น-รายได้หดจากดบ.ขาขึ้น

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์เดี้ยงทั่วหน้า นำโดย MTC-BAM-SAWAD รับแรงกดดันจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอัตราดอกเบี้ยอาจปรับขึ้นเร็ว ส่งมาร์จิ้น-รายได้ของบริษัทในกลุ่มไฟแนนซ์ลดลง โดยเฉพาะพวกลิสซิ่ง อีกทั้งการขยายตัวของสินเชื่ออาจได้รับผลระทบไปด้วย แต่ราคาหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ได้ปรับฐานลงมาบ้างแล้วก่อนหน้านี้

เมื่อเวลา 10.59 น.หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ต่างปรับตัวลงกัน นำโดยหุ้น MTC ลบ 2.55% มาอยู่ที่ 47.75 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 86.13 ล้านบาท
หุ้น BAM ลบ 2.09% มาอยู่ที่ 18.70 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 280.68 ล้านบาท
หุ้น SAWAD ลบ 1.84% มาอยู่ที่่ 53.25 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 146.99 ล้านบาท
หุ้น BFIT ลบ 1.63% มาอยู่ที่ 30.25 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 13.03 ล้านบาท
หุ้น TIDLOR ลบ 1.50% มาอยู่ที่ 32.75 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 57.54 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์อ่อนตัวลง รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยมีทิศทางขาขึ้น โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยในไทยที่อาจจะปรับตัวขึ้นเร็ว แต่ราคาหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ก็ได้ปรับฐานลงมาระดับหนึ่งแล้วจากที่คนรู้กันอยู่แล้วว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ปรับฐานลงมาก่อนนี้แล้วบางส่วน

ทั้งนี้ ต้นทุนของบริษัทในกลุ่มไฟแนนซ์ โดยเฉพาะพวกลิสซิ่ง จะมาจากการออกพันธบัตร (Bond), ตั๋วแลกเงิน B/E ซึ่งต้นทุนจะขึ้นตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ฝั่งรายได้จะมีการปล่อยสินเชื่อในลักษณะดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว บริษัทฯจึงได้รับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ขณะที่รายได้ไม่ปรับขึ้นด้วย อีกทั้งยังต้องวิตกการขยายตัวของสินเชื่อจะลดลงหรือไม่ด้วย ซึ่งขึ้นกับกำลังซื้อของผู้บริโภค

สำหรับกลุ่มธนาคารมีการระดมทุนจากเงินฝาก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยก็จะเคลื่อนไหวตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ในส่วนของเงินฝากอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นช้ากว่าเงินกู้ ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นเป็นผลดีต่อกลุ่มธนาคาร ที่สามารถมาชดเชยสินเชื่อที่ชะลอตัวได้ แต่กลุ่มไฟแนนซ์ไม่มีตรงนี้ ทำให้กลุ่มไฟแนนซ์รับผลกระทบจากมาร์จิ้นที่ลดลง และรายได้ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ดีคิดว่าหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์คงจะปรับตัวลงแค่ช่วงสั้น ๆ