หุ้นปิดเช้าร่วง 10.26 จุด ซึมถอยลง-กังวลเงินเฟ้อสูง

HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,635.82 จุด ลดลง 10.26 จุด ซึมถอยลงสวนทางตลาดในกลุ่ม TIP แม้มีสัญญาณดีจากจีนคลายล็อกดาวน์ แต่กังวลเงินเฟ้อสูงอยู่ ซึ่งทำให้วิตกต่ออำนาจการซื้อ-ต้นทุนพลังงานที่สูงมาก จับตาการประชุมกนง.-เฟดจะมีการส่งสัญญาณการแก้ปัญหาเงินเฟ้อสูงอย่างไร แนวโน้มภาคบ่ายอาจลดช่วงลบได้บ้าง โดยให้แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,650 โดยถ้าให้ดีจะต้องยืนแถว 1,640 จุดให้ได้

ตลาดหุ้นวันที่ 7 มิ.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,635.82 จุด ลดลง 10.26 จุด หรือ -0.62% มูลค่าการซื้อขาย 34,623.44 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,645.41 จุด และต่ำสุด 1,633.88 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้เป็นลักษณะซึมถอยลง สวนทางตลาดในกลุ่ม TIP ที่ทั้งตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ต่างก็บวกกันได้ และตลาดในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แม้จีนจะมีสัญญาณดีจากการคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลเงินเฟ้อที่สูงอยู่ ซึ่งเงินเฟ้อไทยออกมาสูงถึง 7.1% สร้างความกังวลต่ออำนาจการซื้อ และต้นทุนพลังงานที่สูงมาก ทั้งราคาน้ำมัน, ราคาก๊าซ เป็นต้น แต่ก็มาช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้มาช่วยประคองตลาดได้บ้าง

อย่างไรก็ดี ตลาดต่างรอดูสัญญาณการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อสูงจะออกมาแบบไหน โดยต่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าจะมีการส่งสัญญาณอะไรออกมา และรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาดกนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% และคงจะรอดูทิศทางเศรษฐกิจก่อน ถ้าแข็งแกร่งถึงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็อาจจะเป็นช่วงปลายปีนี้ รวมถึงรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 3/65 ได้

ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารถอยลงรับแรงกดดันจากเศรษฐกิจค่อนข้างมาก พร้อมให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของจีน และสหรัฐที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ด้วย

สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดมีโอกาสที่จะลดช่วงลบได้ โดยให้แนวรับ 1,630 จุด แนวต้าน 1,650 จุด โดยถ้าให้ดีจะต้องยืนแถว 1,640 จุดให้ได้

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BANPU อยู่ที่ 13.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ +2.33% มูลค่าซื้อขาย 2,649.12 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 168.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,070.92 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 25.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.92% มูลค่าซื้อขาย 791.44 ล้านบาท
OR อยู่ที่ 27.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.90% มูลค่าซื้อขาย 734.31 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 144.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.03% มูลค่าซื้อขาย 719.97 ล้านบาท