EXIM BANK จับมือภาคเอกชน พัฒนาศักยภาพผู้ส่งออก-ห่วงโซ่แกร่ง

HoonSmart.com>>ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเซ็นเอ็มโอยูกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย  พร้อมร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาผู้ประกอบการเป็นผู้ส่งออก เป้าหมายเป็น  1 แสนรายให้เป็นนักรบเศรษฐกิจไทย เสนอสิทธิพิเศษมากมาย  สร้างซัพพลายเชน สร้างระบบนิเวศ เพิ่มความมั่นคงตอบโจทย์ทุกข้อในประเทศไทย  

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการตลอด Value Chain ของภาคการส่งออก โดยมีนายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ร่วมลงนามใน MOU ดังกล่าว และลงนาม MOU โครงการความร่วมมือด้านวิชาการเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้วยทักษะและสมรรถนะในโลกการค้ายุคใหม่ ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ร่วมกับ EXIM BANK สภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.122565 ที่กระทรวงการคลัง

รมว. คลัง กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ในระบบประมาณ 3.1 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ส่งออกไม่ถึง 1% ขณะที่การจ้างงานของประเทศมีประมาณ 17 ล้านคน เป็นการจ้างงานของผู้ประกอบการ SMEs ถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็น 70% ของการจ้างงานทั้งหมด  หากสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยผันตัวเป็นผู้ส่งออกได้ และแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกยุคใหม่ จะทำให้ SMEs มีงานทำและรายได้เพิ่มขึ้น ภาคการส่งออกมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคการเงินการธนาคาร ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจทุกระดับตลอดทั้งห่วงโซ่การส่งออก ทั้งในมิติของเงินทุน องค์ความรู้ และเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีภูมิต้านทานการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่อให้ภาคการส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีนี้

พร้อมกับวางรากฐานการพัฒนาห่วงโซ่การส่งออกในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พาณิชยนาวี โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมที่เป็นพื้นฐานของประเทศ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในหลาย ๆ ด้าน อาทิ การพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาระบบและกลไกภาครัฐและสภาพแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนผู้ประกอบการ การส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจรวมถึงภาคเกษตรกรรม การขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ และการพัฒนาที่สร้างความเข้มแข็งจากฐานราก

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า ธนาคารมีเป้าหมายในการสร้างผู้ส่งออก 1 แสนราย  เพื่อให้เป็นนักรบเศรษฐกิจไทย และสร้างซัพพลายเชน เพิ่มความมั่นคงตอบโจทย์ทุกข้อในประเทศไทย สร้างระบบนิเวศหรือ ecosystem

ทั้งนี้ โครงการความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการตลอด Value Chain ของภาคการส่งออก ผู้ประกอบการไทยที่เป็นสมาชิกสภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. สามารถสมัครขอรับบริการด้านสินเชื่อจาก EXIM BANK ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นส่งออก ผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศ อัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 4.5% ต่อปี (ลดดอกเบี้ยจากปกติลง 0.5% ต่อปี) ในปีแรก ฟรีค่าธรรมเนียม Front-end Fee โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แถมกรมธรรม์ประกันการส่งออก EXIM for Small Biz (ฟรีเบี้ยประกัน 3,000 บาท) อนุมัติสินเชื่อเร็วภายใน 7 วันทำการ ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 ธ.ค. 2565