PPS ปรับกลยุทธ์ขยายงานใน-ต่างประเทศ ปรับโครงสร้างธุรกิจบริษัทย่อย เพิ่มศักยภาพและโอกาสเข้ารับงาน ด้านโปรฟิน กรุ๊ป รออนุมัติให้บริการระบบเสนอขาย ICO Portal เผยภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังปรับตัวดี รับรู้รายได้งานรัฐ เอกชน คว้างานใหม่หลายโครงการ รอเซ็นสัญญา 105 ล้านบาท หนุน Backlog 332 ล้านบาท
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส (PPS) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานรถไฟฟ้า งานเรือ เพื่อร่วมรับงานที่ปรึกษาฯ ในประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนการทำงานร่วมกับลูกค้ากลุ่มค้าปลีกที่มีแผนขยายสาขาในต่างประเทศด้วย ซึ่งการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการรับงานทั้งในและต่างประเทศของบริษัท
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทย่อย โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะควบรวม ขายหุ้น หรือยุบกิจการ และมีแผนขยายขอบเขตการทำงาน โดยเพิ่มการรับงานตกแต่งภายใน และการรับงานแบบจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ (turnkey) ดำเนินการตั้งแต่ออกแบบสถาปัตย์ ออกแบบโครงสร้าง คุมงานก่อสร้าง จนถึงงานแล้วเสร็จ ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างของบริษัทย่อยดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างศักษภาพและโอกาสในการรับงานมากขึ้น
ขณะที่ บริษัท โปรฟิน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนดำเนินธุรกิจ Project Financing และ ICO Portal อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายดิจิทัล คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนพ.ย.นี้ ขณะนี้มีบริษัทที่สนใจจะระดมทุนด้วยการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล (ICO) อยู่ระหว่างการเจรจา 4-5 ราย
“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากงานเอกชน หลายแห่ง อาทิ งานคอนโดมีเนียม งานค้าปลีก รวมถึงงานภาครัฐบางส่วน ขณะเดียวกันในไตรมาส 3 บริษัทสามารถเข้ารับงานใหม่หลายโครงการ อาทิ งานโครงการมิกซ์ยูส และงานประมาณราคาก่อสร้าง 3 โครงการ ขณะนี้เริ่มให้บริการและรับรู้รายได้บางส่วนแล้ว นอกจากนี้มีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกมูลค่า 105 ล้านบาท ส่วนงานโครงการภาครัฐ อาทิ งานรถไฟฟ้า งานรถไฟรางคู่ งานรถไฟความเร็วสูง ฯลฯ หากโครงการดังกล่าวเปิดประมูลตามแผน บริษัทได้เตรียมความพร้อมเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 332 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 149 ล้านบาทภายในปีนี้” ดร.พงศ์ธร กล่าว
สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 194.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 190.27 ล้านบาท จำนวน 4.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.36% และมีกำไรสุทธิ 14.51 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33.68 ล้านบาท จำนวน 19.17 ล้านบาท หรือลดลง 56.92%