เงินเฟ้อเดือนพ.ค.พุ่ง 7.1% สูงกว่าคาด โบรกฯ แนะจับตากนง. 8 มิ.ย.นี้

HoonSmart.com>> เงินเฟ้อไทยเดือนพ.ค.65 เร่งตัวสูงสุดในรอบ 13 ปี พุ่งขึ้น 7.1% เมื่อเทียบจากงวดปีก่อน สูงกว่าตลาดคาด จากราคาพลังงานและมาตรการลดค่าไฟฟ้า ก๊าซสิ้นสุด ส่วนเงินเฟ้อทั่วไป 2.28% สูงกว่าคาดเล็กน้อย “บล.โนมูระ พัฒนสิน” แนะจับตา กนง.ประชุม 8 มิ.ย.นี้ หากขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด มองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร แต่เป็นลบกลุ่มเช่าซื้อ ด้าน บล.ทิสโก้ คาดกนง.คงดอกเบี้ย 0.50% แนะหุ้นส่งออกอาหาร กลุ่ม Defensive “บล.ฟินันเซีย ไซรัส” มองเงินเฟ้อ มิ.ย. ยังสูงตามราคาสินค้าและฐานที่ต่ำปีก่อน

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ รายงานเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนพ.ค.2565 อยู่ที่ +7.1% y-y สูงกว่าที่ตลาด และบล.โนมูระฯ คาดไว้ที่ 5.8%y-y และ 6.7%y-y จากราคาพลังงานและมาตรการลดค่าไฟ ก๊าซที่สิ้นสุดลง ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ +2.28% y-y สูงกว่าคาดที่ 2.2% y-y เล็กน้อย

บล.โนมูระฯ มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นอิงกำลังซื้อในประเทศ อาทิ กลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มที่จำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือย, วัสดุก่อสร้าง และภาคการผลิตต่างๆ

อย่างไรก็ตามแต่เงินเฟ้อหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกฮอล์) ที่ปรับตัวขึ้น 6.2%y-y มาจากสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ (+10.5%y-y) อาหารในบ้าน (+6.8%y-y) อาหารนอกบ้าน (+6.3%y-y) ยังสะท้อนหุ้นบางกลุ่มปรับราคาขายชดเชยต้นทุนเพิ่มขึ้นได้ อาทิ หุ้นในกลุ่มเกษตร อาหาร (CPF,GFPT) หรือกลุ่มร้านอาหาร

“ระยะถัดไปแนะนำ 8 มิ.ย. ติดตามมุมมอง กนง. ต่อภาวะเงินเฟ้อข้างต้น หากมีมุมมองถึงความจำเป็นอาจต้องพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด จะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารได้ แต่จะเป็นลบต่อกลุ่มเช่าซื้อ”บล.โนมูระฯ ระบุ

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดมากจะเป็นปัจจัยกดดันให้ BoT จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย

บล.ทิสโก้ มองการประชุม กนง. 8 มิ.ย. นี้ ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% แต่คาดว่าจะแสดงความกังวลมากขึ้นต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่มีความเสี่ยงด้านสูง และอาจกดดันให้ กนง. ปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้นเป็นช่วงปลายปีนี้

อย่างไรก็ตามแนะนำติดตาม 2 ปัจจัยที่อาจเป็นตัวกระตุ้นเงินเฟ้อให้สูงขึ้นอีกในอนาคต (1) การทยอยขึ้นราคาน้ำมันดีเซลรอบใหม่ (2) โอกาสการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 400-425 บาท

“เราชอบหุ้นกลุ่ม AGRI และ FOOD โดยเฉพาะหุ้นส่งออกอาหาร เพราะได้ประโยชน์จากราคาอาหารที่สูงขึ้นและเงินบาทอ่อนค่า แนะนำ CPF ราคาเป้าหมาย 32 บาท), TFG 5.75 บาท, TU 26 บาท, TWPC 8.25 บาท สำหรับหุ้นที่อยู่นอกการวิเคราะห์ของเราที่คาดจะได้ประโยชน์เช่นกัน เช่น ASIAN, CFRESH” บล.ทิสโก้ ระบุ

นอกจากนี้ ยังชอบหุ้นที่เป็น Defensive Value ที่คาดว่าจะสามารถต่อสู้ภาวะเงินเฟ้อได้ ADVANC, BDMS, DCC, EGCO

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองยังไม่น่ากังวลถึงขั้นทำให้กนง.ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ แนวโน้มเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. คาดว่ายังสูงตามราคาสินค้าและฐานที่ต่ำปีก่อน