HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีวันนี้ทรงตัว รอดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ศุกร์นี้และติดตามการประชุม ECB วางแนวรับดัชนี 1,645 จุด แนวต้าน 1,655 จุด แนะซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว กลุ่มอาหาร ส่งออก ส่วนหุ้นแนะนำ IVL-SHR
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนีทรงตัวรอ US.CPI โดยวางจุด Stop loss ที่แนวรับ 1,645 จุด กรณียืนไม่ได้มีแนวรับถัดไปที่ 1,630 จุด โดยมีแนวต้าน 1,655 – 1,660 จุด แนะนำซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น CPF, ASIAN, TU, CFRESH กลุ่มโรงกลั่น TOP, BCP และเก็งกำไร KAMART, NSL, KCC
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA, Nasdaq ปรับลดลงกว่า -1%, S&P500 -1.20% WoW จากความกังวลเฟดยังต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ 390,000 ตำแหน่ง, อัตราว่างงานทรงตัวที่ 3.6% ซึ่งสะท้อนภาวะตลาดแรงงานสหรัฐอาจตึงตัว ส่งผลให้ค่าจ้างงแรงงานเพิ่มขึ้นและเป็นปัจจัยเร่งเงินเฟ้อสหรัฐ โดย CME Fed Watch คาดมีโอกาสปรับดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% ในการประชุม มิ.ย, ก.ค. และ ก.ย. และรอประเมินผลกระทบจากการเริ่มลดงบดุลเฟดวงเงิน 4.75 หมื่น ล้านดอลลาร์/เดือน เป็นเวลา 3 เดือนก่อน ก.ย. จะเพิ่มเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ส่งผลให้ US Bond Yield ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.955%
ส่วน Stoxx600 ยุโรป -0.90% WoW หลังเงินเฟ้อยูโรโซน พ.ค. +8.1% สูงกว่าคาด +7.7% YoY ส่งผลให้ ECB อาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ค., ก.ย. โดยติดตามการประชุม ECB ในวันพฤหัสนี้ , วันศุกร์ รายงาน CPI US. พ.ค. คาด +8.3% YoY, Core CPI US. คาด +5.9% YoY ว่าจะมีสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ IVL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 60.00 บาท) รับปัจจัยบวกจากราคา Cotton ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมส่งทอหันมาใช้ใยสังเคราะห์ Polyester ทดแทน คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล หนุน Integrated PET Spread ฝั่ง Asia/West ยังในระดับสูง รวมถึงได้อานิสงส์จากจบดีลซื้อกิจการ Oxiteno ที่จะเริ่มรับรู้เข้ามาเป็นไตรมาสแรก
ภาพรวมปี 65 ได้ประโยชน์จากปริมาณขายรวมที่เพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ที่ฟื้นตัว Cracker เริ่มกลับมาผลิตและได้กำลังการผลิตใหม่จาก Oxiteno ทั้งนี้ตลาดคาดกำไร 3.25 หมื่นล้านบาท คิดเป็น EPS Growth ปี 65 ราว +24%YoY
หุ้น SHR (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.10 บาท) การดำเนินงานช่วงถัดไปคาดหวังการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แม้จะมี Omicron กดดันอยู่บ้าง แต่ผลกระทบในภาพรวมปัจจุบันยังน้อยกว่า Delta โดยพอร์ตโรงแรมที่มีสัดส่วนอยู่ใน UK จำนวนมาก(สัดส่วนรายได้ราว 35% ในช่วงปกติ) เป็นประเทศที่ประชากรได้ฉีดวัคซีน Covid-19 ประเทศแรกๆ และปัจจุบันมีการยกเลิกม.ควบคุมทั้งหมดแล้ว
ขณะที่คาดว่ารร.ใน Maldives(สัดส่วนรายได้ราว 30% ในช่วงปกติ) จะฟื้นตัวได้ดีจากจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยในช่วง 01 ม.ค.65 – 30 พ.ค.65 มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 6.99แสนคน(+54.3%YoY และเมื่อเทียบกับ norm ในปี2019หดตัวเพียง -6.2%) ด้านรร.ในไทย(สัดส่วนรายได้ราว 20% ในช่วงปกติ) รับปัจจัยบวกจากการ Reopening ตั้งแต่พ.ย.64 และมีการยกเลิกม.ควบคุมมาอย่างต่อเนื่อง