HoonSmart.com>>”บล.บียอนด์”ลั่นผลงานสดใส ธุรกิจหลักทรัพย์โตก้าวกระโดดเข้าเป้า คาดปีนี้ค่าคอมมิชชั่นพุ่งขึ้น 4 เท่าตัว Q1 ทำสำเร็จแล้ว เสนอแพลตฟอร์มใหม่ มิ.ย.นี้ มีฐานทุนแกร่ง ลุยปล่อยมาร์จิ้น รับดอกเบี้ยเกิน 5% ค่าธรรมเนียมโตตามไอบี พอร์ตลงทุนหรูตามภาวะตลาด ส่วนธุรกิจเดินรถ E-Bus ไตรมาส 2 เพิ่มอีก 150 คัน ผู้โดยสารแห่ใช้บริการรับเปิดเทอม หุ้นวิ่งต่อ 13% เพิ่มทุนขาย 1 บาท เทรดวันแรกแจกกำไรอู้ฟู่
น.ส.ออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2565 ยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจหลักทรัพย์ และการลงทุนในธุรกิจอื่น การเดินรถบัสไฟฟ้าสาธารณะ (E-Bus) โดยไตรมาส 1 ที่ผ่านมามีรายได้ค่าคอมมิชชั่นหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัว ตามเป้าหมายทั้งปี 2565 ส่วนค่าธรรมเนียมก็เพิ่มขึ้นจาก 4.87 ล้านบาท เป็น 7.57 ล้านบาท ตามการขยายธุรกรรมไอบี ส่วนพอร์ตลงทุน มีกำไรน้อยกว่าปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครน และสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่จบ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้นเห็นได้จากภาพรวมของตลาดหุ้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน ทำให้มีฐานทุนใหญ่ขึ้นและมีเงินทุนในการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์(มาร์จิ้น) รับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5.7-5.9% และมูลค่าการซื้อขายสูงขึ้น โดยบริษัทมีการเลือกหุ้นพื้นฐานดีในการเป็นหลักประกัน ช่วยบริหารความเสี่ยงได้ดี
บริษัทเริ่มบุกธุรกิจหลักทรัพย์ ให้บริการใบอนุญาตทุกใบ แม้ว่ายังมีขนาดเล็ก แต่เห็นโอกาสการเติบโตที่ดีมาก เพราะมีทีมงาน และระบบที่มีประสิทธิภาพ ปิดจุดอ่อนที่เคยเป็นอุปสรรค ทั้งระบบหลังบ้าน และการให้บริการที่รวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 5 วันทำการในการจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนของ BYD สำเร็จ มีการคืนเงินค่าจองหุ้นส่วนเกินเรียบร้อยแล้ว และประมาณเดือนมิ.ย.นี้ จะนำแพลตฟอร์มใหม่มาให้บริการ เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ลูกค้าวางแผนการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น คัดเลือกหุ้นที่น่าลงทุนแบบ เรียลไทม์ มีอินดิเคเตอร์ให้เลือกใช้มากกว่า 5,000 ชนิด ทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค ตั้ง Stop Loss และ Take pofit ได้ เสนอแคมเปญเข้ามามีส่วนร่วม สร้างความพึ่งพอใจให้กับลูกค้า
ส่วนธุรกิจการลงทุน ถือหุ้นบริษัท เอช อินคอร์ปอเรชั่น (ACE) สัดส่วน 49% ลงทุนใน บริษัท ไทย สมายล์ บัส (TSB) 100% นำรถบัสพลังงานไฟฟ้า 100% (E-Bus) มาวิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ได้สัมปทานเดินรถ 10 เส้นทาง และได้เพิ่มอีก 71 เส้นทาง ในส่วน 10 เส้นทาง เดินรถเอง 8 เส้นทาง ให้บริการ 112 คัน อีก 2 เส้นทางให้บริษัทอื่นวิ่งแทน คาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มปริมาณรถอีก 150 คน ส่วนปี 2566 จะเพิ่มขึ้นมาก ในส่วน 10 สาย เพิ่มอีก 225 คัน ราคาคันละ 6.9 ล้านบาท รวม 1,552.5 ล้านบาท ส่วน 71 สายใหม่ ลงทุน 2,130 คัน ๆละ 6.9 ล้านบาท รวม14,697 ล้านบาท แนวโน้มรายได้ดีขึ้นมาก จากการให้บริการ 8 สายที่วิ่ง มี 2 สาย สร้างกำไรก่อนดอกเบี้ย ที่เหลือขาดทุนไม่มาก เพราะยังวิ่งไม่เต็มที่ โอนรถไปหาเส้นทางที่ดีขึ้น บางเส้นทางมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 200 คน/สาย/วัน บางสาย 100 คน ในเดือนพ.ค.และมิ.ย. ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะมีการเปิดเทอม
“เราต้องการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ในรูปของเงินปันผล และกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้น แต่ปัจจุบันยังจ่ายเงินปันผลไม่ได้ จึงออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในราคา 1 บาท แม้เกิดไดลูชั่นขึ้น แต่แนวโน้มการดำเนินงานจะดีขึ้น ส่วนงบเดี่ยวแสดงผลขาดทุนสะสม 1,035 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมี.ค.2565 อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข มีเจ้าหนี้ที่เป็นโจทก์คดีความ ซึ่งชนะในชั้นอุทธรณ์ บริษัทยื่นฎีกา รอศาลพิจารณา บริษัทคิดว่ามีโอกาสในการโต้แย้งได้ จึงต้องชะลอเรื่องลดทุนล้างขาดทุน ก่อน” น.ส.ออมสินกล่าว
ด้านหุ้นเพิ่มทุน BYD ราคาหุ้นละ 1 บาทเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 31 พ.ค. ราคาเปิดที่ 10.40 บาท ลดลงเพียง 0.20 บาทจากวันก่อน และมีแรงไล่ซื้อกลับผลักดันราคาขึ้นไปสูงสุดแตะ 12.20 บาท ก่อนปิดที่ระดับ 12 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือ 13.21% จากวันก่อน มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 807.60 ล้านบาท สำหรับผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาเพียงหุ้นละ 1 บาท ได้รับผลตอบแทนสูงมาก