HoonSmart.com>>ราคาสินทรัพย์เสี่ยงขยับขึ้น หุ้นไทยเพิ่มตามภูมิภาค คาดเงินเฟ้อ-บอนด์ยีลด์ผ่านจุดพีคแล้ว เฟดอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย 3 นักวิเคราะห์เตือนขึ้นช่วงสั้น ยังคงผันผวน บล.กสิกรฯชวนขายล็อกกำไร ไม่เพิ่มพอร์ต บล.บัวหลวง เริ่มเลือกซื้อหุ้นเติบโตสูง กลุ่มการเงิน , โรงไฟฟ้า, ค้าปลีก บล.พายลดพอร์ตช่วงราคาขึ้น บล.เคทีบีเอสที ยังคงยก KBANK เป็น Top pick มูลค่าถูก กำไรไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้น ซื้อแบงก์อินโดฯไม่มีนัยสำคัญ
วันที่ 30 พ.ค. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ 1,653.61 จุด +14.86 จุด เท่ากับ +0.91% มูลค่าซื้อขายรวม 67,561.59 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,672.94 ล้านบาท ส่วนบิทคอยน์ ขึ้นมาซื้อขายสูงกว่า 30,000 ดลลาร์อีกครั้ง
มาร์เก็ตติ้งกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามภูมิภาค จากข่าวบวกประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าหุ้น โดยกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น เนื่องจากมูลค่าหุ้นยังไม่แพง ส่วนใหญ่ราคาซื้อขายต่ำกวา่มูลค่าหุ้นทางบัญช๊(P/BV) ต่ำกว่า 1 เท่า เช่น KBANK,SCB และ BBL แนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2/2565 ส่วนหนึ่งเกิดจากการตั้งสำรองลดลงและคุณภาพลูกหนี้ดีขึ้นกว่าที่คาด
บล.กสิกรไทย เผยกลยุทธ์การลงทุน ยังคงคำแนะนำ “ขายล็อกกำไร” ไม่แนะนำเพิ่มพอร์ตลงทุน แม้ช่วงต้นสัปดาห์ยังมีโอกาสไต่ขึ้น แต่แค่ช่วงสั้น ตามปัจจัยภายนอก ในช่วงกลางสัปดาห์อาจจะยังเผชิญกับความผันผวนจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1 .ความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย 2. กระแสโรคฝีดาษลิงที่แพร่กระจาย KS ประเมินสถานการณ์ไม่น่ากังวล แต่หากพบในไทยในระยะสั้นคาดจะกดดันหุ้นเปิดเมืองที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง 3.การเมืองในไทย วันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระที่ 1 ประเด็น พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ต้องติดตาม เพราะมีกระแสฝ่ายค้านโหวตคว่ำ หากไม่ผ่านคาด Sentiment ลบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์
“แนะนำลงทุนหุ้นโซนล่างและราคาสะท้อนปัจจัยลบไปมาก อาทิ กลุ่มได้ประโยชน์จากแนวโน้มบอนด์ยีลด์ปรับลง คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า (GUNKUL GPSC GUNKUL) กลุ่มการเงิน (MTC, TIDLOR, SAWAD,CHAYO, AEONTS , KTC ) รวมถึงกลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BH) ซึ่งมีความ Defensive”บล.กสิกรไทยแนะนำ
บล.บัวหลวงคาดดัชนีรีบาวด์เอียงไปทางบวก รับแนวโน้มการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟดหลังตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เริ่มลงคาดกลายเป็นจุดเปลี่ยนเกมของการเลือกหุ้นในรอบใหม่
ในช่วงนี้เริ่มมองหาโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นเติบโตสูง Growthstocks & growth story (เช่น กลุ่ม Software tech) มองข้ามเงินเฟ้อ และ แนะลดพอร์ตหุ้นที่เล่นล้อไปกับ ตะกร้าเงินเฟ้อเช่น โรงพยาบาล สินค้าโภคภัณฑ์สื่อสาร เป็นต้น เพิ่มการเก็งฯหุ้นที่เล่นตรงข้ามกับทิศทางดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่ peakout เช่น กลุ่มบริการทางการเงิน , โรงไฟฟ้า, ค้าปลีก เป็นต้น
บล.พาย (Pi) ประเมินกรอบดัชนีทั้งสัปดาห์ที่ 1,630 – 1,660 เชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะปรับตัวขึ้น ยังแนะเป็นลดน้ำหนักการลงทุน กังวลถึงการปรับลดประมาณการและเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวจากดอกเบี้ยเร่งขึ้นในช่วงถัดไป
ส่วนหุ้นแนะนำระยะสัปดาห์ MAJOR ค้าปลีก BJC, CPALL สื่อสาร ADVANC อาหาร ASIAN, CPF, GFPT, TFG, TU ท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA โดยให้ราคาเป้าหมาย ให้เป้าหมาย MAJOR 23.70 บาท คาดผลงานจะค่อย ๆ ปรับดีขึ้นในไตรมาส 2 จากจุดต่ำในไตรมาสแรก เพราะมีภาพยนตร์คุณภาพดีจำนวนมากที่จะเข้าฉาย และTU ราคาเป้าหมาย 22.10 บาท บริษัทเริ่มปรับราคาขายขึ้นในไตรมาส 2 เชื่อว่าจะช่วยลดแรงกดดันด้านต้นทุนที่วิ่งสูงขึ้น ขณะที่การออกสินค้าใหม่ๆยังมีอย่างต่อเนื่อง
ด้านธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2565 บริษัทย่อย ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไข เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia) ภายใต้เงินลงทุนไม่เกิน 220 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7,556 ล้านบาท ซึ่งจะเข้าถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 67.50% คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2565
บล.เคทีบีเอสที ยังคงเลือก KBANK เป็น Top pick ของกลุ่มธนาคาร ยังคงคำแนะนำ”ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 190 บาท valuation ยังไม่แพงซื้อขายเพียง 0.7เท่าของ PBV แนวโน้มกำไรไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2565 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนได้ต่อจาก
สำรองฯที่ลดลง
“เรามีมุมมองเป็นกลางเพราะเป็นดีลเล็ก จะไม่มีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์โดยจุดมุ่งหมายต้องการเป็น Strategic partner และสร้าง upside ต่อกำไรสุทธิได้เพียง 0.3% ในปี 2564ที่ 179 ล้านบาท ราคาที่ซื้อคิดเป็น P/BV ที่ 4.2 เท่า ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 4.9 เท่า แต่แพงกว่า BBL ซื้อ เพอร์มาตาที่ 1.77 เท่า อย่างไรก็ดี มูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.8% ของสินทรัพย์ KBANK และมีสินเชื่ออยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.8% ของสินเชื่อ KBANK”บล.เคทีบีเอสที