SCI ชะลอลงทุนเหมืองขุดบิทคอยน์ หันมาลงทุนคริปโตฯ วงเงิน 30 ลบ.

HoonSmart.com>>บอร์ด”เอสซีไอ อีเลคตริค”ไฟเขียวบริษัทย่อย เพิ่มช่องทางลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและโทเคนดิจิทัล ตั้งงบ 30 ล้านบาท ซื้อเหรียญบิทคอยน์ และชะลอลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ฟากซีอีโอ “เกรียงไกร เพียรวิทยากุล” เชื่อมั่นอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีโต  ระบุราคาบิทคอยน์จะปรับตัวลงแรง แค่ชั่วคราว คาดสร้างผลตอบแทนที่ดีระยะยาว คุ้มค่าต่อการลงทุน หนุนอนาคตสดใส

นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติชะลอการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาเหรียญบิทคอยน์มีการปรับตัวลดลงอย่างมาก ลดลงต่ำกว่าราคาที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่บริษัทได้ อย่างไรก็ตามบอร์ดอนุมัติให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และโทเคนดิจิทัล ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล มีกรอบวงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท โดยจะเริ่มลงทุนตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.นี้คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3/2565 เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยคือ เอสซีไอ เวนเจอร์ (SCIV) ลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ จำนวนเงิน 140 ล้านบาท เพื่อสร้างผลตอบแทนและเป็นช่องทางการสร้างรายได้ใหม่

“ราคาเหรียญบิทคอยน์ปรับตัวลดลงอย่างมาก ปัจจุบันลดลงต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ  แต่คาดว่าน่าจะเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น  บริษัทยังคงมีความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี และเมื่อพิจารณาความคุ้มค่าของผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการลงทุน การซื้อเหรียญบิทคอยน์ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี และคุ้มค่าให้แก่บริษัทได้” นายเกรียงไกรกล่าว

บริษัทมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีบล็อกเซน (Blockchain) ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าเทคในโลยีบล็อกเชน เป็นนวัตกรมที่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยผู้แปลงการทำงานของธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ในปัจจุบันการใช้เทคโนโลยี Blockchain มีการการเติบโตเป็นอย่างมาก และถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม ไม่จำกัดแค่ธุรกิจการเงิน การเดิบโตของบล็อกเชนส่งผลให้โครงข่ายเติบและแข็งแกร่งมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น และมีมูลค่าสูงขึ้น บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสกุลเงินดิจิทัลกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว รวมถึงสามารถต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นได้อีกมากในอนาคต

ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้สวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และโครงสร้างเหล็กชุบกัลวาไนซ์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักเริ่มมาถึงจุดอิ่มตัว บริษัทฯ จึงมีความต้องการหาโอกาสทางธุรกิจหรือการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสร้างเสริมรายได้ โดยมองว่าอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีนั้นจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และให้ผลตอบแทนที่ดี สามารถเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจหรือต่อยอดการลงทุนอื่นๆ ได้ต่อไปในอนาคต