10 โบรกส่องเป้าดัชนี SET ปีนี้ 1,650-1,810 จุด ชู 5 หุ้นเด่น

HoonSmart.com>>ล่าสุด 10 โบรกเกอร์ส่องเป้าดัชนี SET ปี 65 อยู่ในกรอบ 1,650-1,810 จุด ลดลงจากเดิมที่มีเป้าหมาย 1,680-1,850 จุด คิดเป็น P/E ที่ 16.5-18.7 เท่า จากเดิม 17.5-19.7 เท่า กำไรต่อหุ้น 88-93.6 บาท จากเดิม 90.3-104 บาท จากความเสี่ยงที่สูงขึ้น บจ.แบกตันทุนเพิ่ม มองช่วงที่เหลือของปีหุ้นที่น่าสนใจ กลุ่มค้าปลีก, พลังงาน, แบงก์, รับเหมาฯ, เปิดเมือง, รพ.ที่มีลูกค้าต่างชาติ, บริหารหนี้ ยกหุ้น BH, BDMS, CHAYO, JMT, BAM

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปี 2565 ลงมาอยู่ที่ 1,750 จุด จากเป้าหมายเดิม 1,850 จุด คิดเป็น P/E ปี 2556 ที่ 16.5 เท่า จากเดิม 17.5 เท่า โดยได้ปรับลดกำไรต่อหุ้น(EPS)ปี 2566 ลงมาเหลือ 90.9 บาท จากเดิม 104 บาท มองตลาดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครนที่มีความยืดเยื้อ, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเศรษฐกิจของจีนที่มีโอกาสชะลอตัว

อย่างไรก็ดี สามารถเล่นเทรดดิ้งได้ โดยยึดหลัก”ขึ้นขาย-ลงซื้อ” แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ, Value play จากการเปิดเมือง-เปิดประเทศ โดยหุ้นที่น่าสนใจในกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันยังทรงตัวสูง, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ลงเหลือ 1,650 จุด จากเดิม 1,720 จุด โดยประมาณการกำไรต่อหุ้นปีนี้ลงจากเดิม 92 บาท เหลือ 88 บาทหรือเติบโต 5% พี/อี 18.7 เท่า

แนวโน้มผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 ของบจ.มีความเปราะบาง รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งภาคการผลิตคิดเป็น 35% ของมาร์เก็ตแคปตลาด ส่วนธุรกิจพลังงานต้นน้ำที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวสูง อย่าง BANPU, PTTEP คิดเป็น 10% ของมาร์เก็ตแคปตลาด แต่ก็ถือว่าราคาน้ำมันปรับขึ้นได้น้อยกว่าไตรมาส 1/64

สำหรับหุ้นที่น่าลงทุนได้แก่กลุ่มธนาคาร, กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มเปิดเมือง อาทิท่องเที่ยว

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า เป้าหมายดัชนี SET ปี 2565 ได้ปรับลงมาเหลือ 1,716 จุด จากเดิม 1,783 จุด คิดเป็น P/E 18.34 เท่า จากเดิม 19.7 เท่า แต่ EPS ขึ้นมาอยู่ที่ 93.6 บาท จากเดิม 90.3 เท่า เนื่องจากผลกำไรของบจ.งวดไตรมาส 1/2565 ออกมาดีมาก ส่วนที่กำไรผิดปกติคือ กลุ่มพลังงานจากราคาพลังงานที่สูง กำไรปีนี้ดีขึ้น หากมองไปข้างหน้าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มอื่น ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้น

ในช่วงที่เหลือของปีนี้หุ้นที่น่าสนใจ เป็นหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง-เปิดประเทศ, กลุ่มโรงพยาบาลที่มีลูกค้าต่างชาติ อย่าง BH และ BDMS, กลุ่มธนาคาร ราคาลงลึกขณะที่กำไรดี และกลุ่มบริหารหนี้ ที่เด่นคือหุ้น CHAYO, JMT, BAM จากข่าวเรื่องที่แบงก์ชาติให้ธนาคารพาณิชย์ขายหนี้ NPLs จะส่งผลให้บริษัทบริหารหนี้มีกำไรดี

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ยังคงเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ไว้ที่ 1,810 จุด แต่ถ้าหากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ก็จะลงมาเหลือ 1,722 จุด  ส่วนผลกำไรไตรมาส 1 ของบริษัทจดทะเบียนก็ยังออกมาตามที่คาดการณ์ไว้

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ปรับลดเป้าดัชนี SET ปี 2565 ลงเล็กน้อยจากเดิม 1,830 เหลือ 1,800 แต่ยังมองบวกกับแนวโน้มตลาด  จะมีกระแสเงินทุนไหลเข้าหุ้นไทยเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากคาดว่า US dollar index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะผ่านจุดสูงสุด และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ดี