บล.โกลเบล็ก แนะหุ้นได้อานิสงส์ภาครัฐคืน VAT เป็นเงินสด

บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยได้อานิสงส์จคาดกนง.คงดอกเบี้ย บวกเลือกตั้งชัดเจนปีหน้า ให้กรอบดัชนี 1,700-1,740 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นได้อานิสงส์จากภาครัฐคืน VAT เป็นเงินสดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ ชู HMPRO-CPALL- ROBINS -BJC และหุ้นเข้าคำนวณดัชนีกลุ่ม DJSI World และกลุ่ม DJSI Emerging Markets ส่วนราคาทองคำแนะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวใกล้ 1,180 ดอลลาร์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ( GBS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยบวกจากคาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและน่าจะมีการทบทวนปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 61 เพิ่มขึ้น

รวมถึงการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ คาดเร็วๆ นี้จะเห็นการปลดล็อคพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในปีหน้า และราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากการคาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่านจะส่งผลให้ภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว เป็นผลดีกับหุ้นกลุ่มพลังงาน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์การค้าสหรัฐฯและจีนยังไม่คลี่คลาย หลังสหรัฐฯเดินหน้าตามแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนล็อตใหม่ที่วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนอาจปฏิเสธเข้าร่วมในการเจรจาการค้ารอบใหม่ และ Fund flow ไหลออกจากตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่

ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่น่าจับตา ได้แก่ วันที่ 19 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย อียู เปิดเผย ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ค. อังกฤษ เปิดเผย อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. สหรัฐฯ เปิดเผย ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค. ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/2561 และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 20 ก.ย. อังกฤษ เปิดเผย ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. สหรัฐฯ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนก.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. อียู เปิดเผย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย. และในวันที่ 25 – 26 ก.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,700-1,740 จุด แนะลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก รัฐบาลคืน VAT เป็นเงินสดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ ได้แก่ HMPRO, CPALL, ROBINS, BJC และหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนีทั้งกลุ่ม DJSI World และกลุ่ม DJSI Emerging Markets ได้แก่ KBANK, SCB, PTTEP, PTT, CPALL, PTTGC, SCC และ CPN

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน และการที่สหรัฐฯบีบให้นานาประเทศคว่ำบาตรอิหร่าน ยังคงเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนโลก และทำให้ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ เกิดความผันผวนและไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มจะแข็งค่าต่อไปในระยะสั้นก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 26 ก.ย. ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในระดับสูงว่าจะมีการปรับขึ้นอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค. โดยเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ถ้าหากถ้อยแถลงของประธาน Fed และความเห็นของคณะกรรมการ FOMC ยืนยันว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้

ทั้งนี้ จึงคาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มจะแกว่ง sideway down ต่อไป โดยคงคำแนะนำให้เล่นเก็งกำไรแบบ swing trade หรือ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวใกล้ระดับ 1,180 ดอลลาร์ และปรับมาเล่น breakout follow เมื่อราคาออกจากช่วง 1,180–1,215 ดอลลาร์