หุ้นปิดเช้าร่วง 25.55 จุด เกิด Panic Sell วิกฤตคริปโตเป็นตัวเร่ง

HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,587.79 จุด ลดลง 25.55 จุด เกิด Panic Sell หันถือเงินสด จากวิกฤตคริปโตเป็นตัวเร่งหลังเหรียญลูนา (LUNA) ร่วงไปกว่า 90% หวั่นกระทบเศรษฐกิจ จึงเกิดความไม่แน่นอนในสินทรัพย์ที่ถืออยู่ อีกทั้งหวั่นเฟดใช้ยาแรง-เร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อยังสูง เป็นความเสี่ยงต่อค่าเงินด้วย แนวโน้มภาคบ่ายตลาดฯยังมีโอกาสปรับตัวลง โดยให้แนวรับ 1,570-1,580 แนวต้าน 1,600-1,610 จุด

ตลาดหุ้นวันที่ 12 พ.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,587.79 จุด ลดลง 25.55 จุด หรือ -1.58% มูลค่าการซื้อขาย 47,913.60 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,607.88 จุด และต่ำสุด 1,585.68 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแรงกว่าปกติ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมาไม่ได้ปรับตัวลงแรงกว่าที่คาดไว้ ทำให้แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้ยาแรงจึงมีอยู่ ด้วยการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นผลต่อหุ้น อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่ปรับสูงขึ้นทำให้เป็นลบต่อตลาด

นอกจากนี้ ตลาดได้เกิด Panic Sell จากวิกฤตคริปโตที่เริ่มเปราะบาง หลังจากที่เหรียญลูนา (LUNA) ได้ปรับตัวลงเร็วและแรง จากระดับ 100 เหรียญฯลงมาไม่ถึง 10 เหรียญฯ ภายในเวลาแค่ 2 วัน ซึ่งวิตกอาจจะกระทบเศรษฐกิจให้ชะลอตัวได้ ซึ่งปกติเศรษฐกิจชะลอจะเกิดจากวิกฤตทางการเงิน แต่ครั้งนี้เป็นวิกฤตคริปโตก็ไม่รู้จะรุนแรงส่งผลกระทบแค่ไหน แต่ทำให้เกิด Panic Sell แล้วหันเข้าถือเงินสดก่อน เพราะราคาเหรียญลูนาปรับตัวลงกว่า 90% ทุกคนที่ถือเหรียญนี้ขาดทุนหมด บางคนอาจขายหุ้นแล้วไปโปะบิทคอยน์ก็ได้ เพราะตลาดบิทคอยน์เป็นลักษณะเก็งกำไร มีการเล่นด้วยมาร์จิ้น วิกฤตลูน่าเป็นครั้งแรกที่เกิดทำให้กระทบหุ้นให้เกิด Panic Sell ได้จากความไม่แน่นอนในสินทรัพย์ที่ถืออยู่

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดอื่น แต่เมื่อเงินบาทอ่อนค่ามากทำให้วิตกจะเกิดแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ และหากอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น แต่ไทยไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็เป็นความเสี่ยงในเรื่องค่าเงินบาทที่มีโอกาสจะอ่อนค่าลงได้อีก

สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดฯยังมีโอกาสปรับตัวลง โดยให้แนวรับ 1,570-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,610 จุด พร้อมให้จับตากรณีราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบกำไรของบริษัทจดทะเบียนมาก/น้อยแค่ไหน

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTGC ปิดที่ 45.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -6.25% มูลค่าซื้อขาย 2,552.92 ล้านบาท
JMT ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 5.75 บาท หรือ -7.90% มูลค่าซื้อขาย 2,329.21 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.18% มูลค่าซื้อขาย 1,456.33 ล้านบาท
CRC ปิดที่ 36.00 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ -7.10% มูลค่าซื้อขาย 1,320.90 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 36.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.68% มูลค่าซื้อขาย 1,233.41 ล้านบาท