CCET-DELTA-KCE ขึ้นนำกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์หลังพักฐานไปพอควร

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยับขึ้นทั่วหน้า นำโดย CCET-DELTA-KCE รับแรงเก็งกำไรหลังได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า-เงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะประกาศคืนนี้อาจไม่สูงกว่าตลาดคาด 8.1%-ราคาหุ้นในกลุ่มฯพักฐานไปมากพอควรแล้วจึงมีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้-ผลงานไตรมาส 1/65 ไม่ได้ออกมาแย่

เมื่อเวลา 11.00 น. หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับขึ้นทั่วหน้า นำโดยหุ้น CCET พุ่ง 5.83% มาอยู่ที่ 2.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.46 ล้านบาท
หุ้น DELTA บวก 3.60% มาอยู่ที่ 345.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 385.29 ล้านบาท
หุ้น KCE บวก 2.51% มาอยู่ที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 289.55 ล้านบาท
หุ้น SMT บวก 2.05% มาอยู่ที่ 4.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 7.41 ล้านบาท
หุ้น HANA บวก 1.68% มาอยู่ที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 258.87 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า คาดว่าจะเป็นแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน เนื่องจากได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้ อาจจะออกมาไม่ปรับขึ้นสูงกว่าตลาดคาดไว้ที่ 8.1% และเงินเฟ้อพื้นฐานคาดไว้ 6% ทำให้มีแรงเก็งกำไรกันจนทำให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง

นอกจากนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้พักฐานมากพอควรแล้ว ดังนั้นจึงอาจเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ทุกเมื่อ รวมถึงผลประกอบการของบริษัทฯในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่ได้ออกมาแย่ บรรยากาศการลงทุนหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เช้านี้จึงดูดีขึ้น

ด้านสัญญาณทางเทคนิคมองหุ้น DELTA มีแนวรับ 340 บาท แนวต้าน 350 บาท ส่วน KCE มีแนวรับ 59 บาท แนวต้าน 63 บาท และ HANA มีแนวรับ 44 บาท แนวต้าน 45 บาท

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะ”ซื้อ”หุ้น บริษัทเคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ราคาเป้าหมาย 80 บาท/หุ้น กำไรจากธุรกิจหลักของ KCE ในไตรมาส 1/65 ต่ำกว่าประมาณการ 14% ซึ่งสาเหตุสำคัญคืออัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาดไว้ ในขณะที่ยอดขายในไตรมาส 1/65 ยังแข็งแกร่ง และดีกว่าประมาณการถึง 13% ซึ่งเป็นการยืนยันถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และความสามารถของบริษัทในการเกาะกระแสรถ EV โลก โดยจะอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวโอกาสที่มาร์จิ้นจะเพิ่มขึ้นหลังเข้าประชุมนักวิเคราะห์

กำไรสุทธิของ KCE ในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 589 ล้านบาท (+17% YoY, -16% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการ 9% และต่ำกว่าของนักวิเคราะห์ในตลาด 5% แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรจากธุรกิจหลักในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 557 ล้านบาท (+30% YoY, -14% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการ 14% จากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักในไตรมาส 1/65 คิดเป็น 19% ของประมาณการกำไรปีนี้

อัตรากำไรขั้นต้นของ KCE ในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 22.8% (-2.2ppts YoY, -2.5ppts QoQ) ต่ำกว่าประมาณการที่ 26.2% ต่ำกว่าสมมติฐานปี 2565 ที่ 29% และยังต่ำกว่าเป้าของบริษัทที่ 30% ด้วย ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำเกินคาดเป็นเพราะ scrape rate เพิ่มขึ้น/ประสิทธิภาพในการผลิตลดลง ตามสัดส่วนยอดขาย PCB เกรดพิเศษที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ 479 ล้านบาท (+19% YoY, +19% QoQ) คิดเป็นสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่ 10.6% (จาก 11.8% ในไตรมาส 1/64 และ 9.6% ในไตรมาส 4/64)