HoonSmart.com>>”สบาย เทคโนโลยี” (SABUY) เล็งรับไลเซนต์ดีลเลอร์สินทรัพย์ดิจิทัลในครึ่งหลังปีนี้ แต่จะเน้นสร้างความพร้อมในระบบก่อน อีกทั้งช่วงนี้ราคาบิทคอยน์ผันผวนลงเหลือแค่ 30,000 เหรียญฯต้น ๆ โชว์ความได้เปรียบจากฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง สำหรับ Drop-off วางเป้าปีนี้ 20,000 จุด จากปัจจุบันที่มี 12,000 จุด นอกจากนี้เล็งผลงานไตรมาส 2/65 โตต่อเนื่องจากทุกธุรกิจ พร้อมเผย D/E ปัจจุบันเหลือ 0.51% ลดลงจากปีที่แล้ว (2564) ที่มี 0.81%
นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท สบาย เทคโนโลยี (SABUY) กล่าวว่า บริษัทฯได้มีการขอใบอนุญาตในการเป็นโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตประมาณปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ปีนี้ แม้ว่าจะได้ใบอนุญาตมาก็อาจจะยังไม่ได้ใช้ เพราะต้องการที่จะเน้นการสร้างความพร้อมในระบบของบริษัทก่อน อีกทั้งช่วงนี้ราคาบิทคอยน์ก็ผันผวนด้วย ลงมาเหลือ 30,000 เหรียญต้น ๆ
“เราคาดว่าจะได้ไลเซนต์ดีลเลอร์ฯราวปลายไตรมาส 3/65 หรือต้นไตรมาส 4/65 ได้ได้ไลเซนต์มาแล้วอาจจะยังไม่รีบใช้ เพราะเราเน้นความพร้อมใช้ในระบบเราก่อน อีกทั้งราคาบิทคอยน์ก็ผันผวนช่วงนี้ ลงมาเหลือ 30,000 เหรียญฯต้น ๆ แต่เราก็ได้เปรียบฐาน user ของเรา ที่มีทั้งเรือไฟฟ้า, รถไฟฟ้า คนอยากให้เกิดกิจกรรมมากกว่า อย่างสวนนงนุช, สวนน้ำ อยากเป็นพาร์ทเนอร์กับเรา”
สำหรับ Drop-off ตอนนี้มีอยู่ 12,000 จุด ซึ่งได้วางเป้าหมายว่าจะขยายเป็น 20,000 จุดในปีนี้ โดยก็จะมีการขยายไปทางฝั่งอีสาน ซึ่งบริษัทฯจะเป็นไฟแนนซ์ที่เข้าถึงทุกคนในราคาที่จับต้องได้นี่คือแนวทางที่จะเดินหน้าไป
นายวิรัช กล่าวต่อว่า บริษัทฯได้ ดำเนินการควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ในการเติบโต หรือ Growth Strategy อย่างมีนัยสำคัญ โดยในส่วนของการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability Growth นั้น บริษัทฯ ได้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในระบบงาน การปรับปรุงกระบวนการทำงาน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลบริษัทที่ดี การตรวจสอบภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญ และมีส่วนช่วยให้ SABUY สามารถเติบโตมั่นคง และยั่งยืน ต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ยังมีการวางแผนบทบาทและการเติบโตของ SABUY Digital ภายใต้ ecosystem ของ SABUY เพิ่มมาเสริมความแข็งแกร่งขององค์กรในโลกดิจิตอลด้วยว่า “SABUY Digital เป็นผู้ให้บริการด้าน Digital Technology ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน Cryptocurrency, NFT, Blockchain Technology, Gamification และ Web 3.0 ซึ่งล่าสุดกำลังจะเปิดตัวเหรียญดิจิทัล ภายใต้คอนเซ็ปท์ “2 Coins 2 Locations” โดยการออกเหรียญ พร้อมกัน 2 เหรียญ คือ Speed Kub หรือ CRM token สำหรับธุรกิจสะดวกส่ง transportation และ e-commerce ภายใต้ SABUY ecosystem และ FiiT token ซึ่งเป็น community token จากการออกกำลังกาย และทำกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ โดย เปิดตัว ทั้งสองเหรียญในสองสถานที่ ได้แก่ งาน Money Expo 2022 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 บูธ E5 และ งาน Crypto Expo Thailand 2022 ที่ Bitec Bangna บูธ CM04
โดยเหรียญดิจิตอล Speed Kub หรือ CRM token และ FiiT token หรือ community token ได้ออกแบบให้มีช่องทางการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ในการนำ โลโก้แสดงในเว็บไซต์ของ speedkub.io fiittoken.io SABUYdigital.com และในแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า speedkub และ fiittoken พร้อมกันนี้ยังได้นำโลโก้หรือแบนเนอร์ในเกมส์ FiiT Run ไปแสดงที่บูธของงาน Money Expo 2022 และ Crypto Expo 2022 อีกด้วย
สำหรับในงาน นอกจากเรื่องการมี Airdrop เพื่อแจกเหรียญ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ โดยมีการแจก Speed Kub เพิ่มสำหรับการส่งพัสดุผ่าน SABUY Speed ในขณะที่ FiiT token จะได้เพิ่มจาก การเข้าร่วมเกมส์ FiiT Run ซึ่งเป็นเกมส์ที่ใช้เพียงกล้องจากโทรศัพท์มือถือ พร้อมเทคโนโลยี การตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อการตรวจจับการเดิน (Walk) การวิ่งเหยาะ (Jog) หรือ การวิ่ง (Run) โดยระหว่างการเล่นเกมส์ แต้มสะสมจะแปลงเป็น FiiT token ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์ม Speed Kub หรือ CRM token และ FiiT token หรือ Game token จะสามารถใช้การ (Burn) ที่สะสมภายในทั้งสองงาน เพื่อแลกรับของสมนาคุณแลกรับของสมนาคุณได้ อาทิ หน้ากากผ้า 3D Mask, เสื้อ Speed Kub ที่ตู้ขายสินค้าเวนดิ้งพลัส ภายในงานได้เช่นกัน
“ผู้ที่สนใจยังสามารถซื้อ NFT หรือ Non-Fungible Tokens ในรูปของไข่มีจำนวน 4 แบบ ให้เลือกสะสมเพื่อรอลุ้นฟักเป็นตัวในช่วงเดือนกรกฎาคม หรือหากต้องการลุ้นรับ NFT เพิ่มเติมยังสามารถลงทะเบียนเพื่อลุ้นรับสิทธิพิเศษต่างๆ ในอนาคตได้” นายวิรัช กล่าว
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน SABUY เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/65 จากการรับรู้รายได้ในทุกธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้น โดยบริษัทฯมีการลงทุนทั้งหมด 38 บริษัทที่จะสร้างประโยชน์ร่วมกัน กลยุทธ์สำคัญของบริษัทคือการสร้างโอกาส และได้รับความเชื่อถือมาก ซึ่งไตรมาส 2/65 จะไล่เปิดตู้ Service ให้มากขึ้นเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง สำหรับ D/E ปัจจุบันเหลือ 0.51% ลดลงจากปีที่แล้ว (2564) ที่มี 0.81%
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 735 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371 ล้านบาท หรือ 102 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 33% และมีกำไรสุทธิ 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 73 ล้านบาท หรือ 219% เป็นไปตามเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น 1 เท่า กำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่า ตามแถลงเมื่อเปิดธีม SABUYVERSE เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
“บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจโซลูชั่นส์และช่องทางการขายและบริการ (Solutions and Channels) ผ่าน Drop-off ต่างๆ และธุรกิจการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์(Retail) ผ่านทาง PTECH ในขณะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโดยการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีจากการควบรวมกลุ่ม Drop-off หลายแบรนด์เข้าด้วยกันเมื่อช่วงต้นปี เช่น The Letter Post, Point Express, PaysPost, ตลอดจนการนำบริษัทอื่นๆ เข้ารวมกลุ่มเช่น CitiSoft, ForthSABUY, TeroSABUY, PFS, ฯลฯ”
นายณรงค์ชัย กล่าวอีกว่า กำลังนำบริษัทที่ลงทุนไว้แล้วให้เข้ามาในกลุ่มในช่วงไตรมาส 2/2565 โดยมี บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AIT), นครหลวงแคปปิตอล, CarFinn, O Capital, LockBox ตลอดจนแนวทางการลงทุนในอนาคตที่จะเกิดขึ้นเช่น เธียรสุรัตน์ (TSR), ไอซอฟเทล (iSoftel), เอส.เค เมเนจเม้นท์แอนด์ซัพพลาย (SKM) และบริษัทฯ ยังร่วมเป็นพันธมิตรอย่างแนบแน่นกับกลุ่ม COM7 ที่เข้ามาถือหุ้นใน SABUY อีกด้วย