HoonSmart.com>> กองทรัสต์ FTREIT เปิดงบไตรมาส 2/65 กวาดรายได้รวม 907 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% กำไรจากการลงทุนสุทธิ 635 ล้านบาท หนุนครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 65 รายได้รวมแตะ 1,812.8 ล้านบาท เติบโต 8.3% กำไรจากการลงทุนสุทธิโต 9.9% ด้านอัตราการเช่าเฉลี่ยแข็งแกร่งอยู่ที่ 87.0% รับอานิสงส์ซัพพลายเชนดิสรัปชั่น ดีมานด์คลังสินค้าระยะสั้นพุ่ง เคาะจ่ายเงินปันผลไตรมาส 2/65 อัตรา 0.1750 บาท ขึ้น XD 19 พ.ค.65
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (FIRM) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 (มกราคม – มีนาคม 2565) รายได้รวมอยู่ที่ 907.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.7 ล้านบาท หรือ 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กำไรจากการลงทุนสุทธิมีจำนวน 635.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3 ล้านบาท หรือ 2.1%
ปัจจัยหลักมาจากสัดส่วนพื้นที่เช่าและอัตราการเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ด้วยดีมานด์ของผู้เช่าที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์ ยานยนต์ และ อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ผลประกอบการของครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565) มีรายได้รวม 1,812.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.5 ล้านบาท หรือ 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 1,270.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114.9 ล้านบาท หรือ 9.9%
สำหรับผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาสที่ 2 FTREIT ได้ประกาศจ่ายในอัตรา 0.1750 บาทต่อหน่วยทรัสต์ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 20 พ.ค. 2565 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 19 พ.ค. 2565 โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 1 มิ.ย.2565 ทั้งนี้ เมื่อรวมกับไตรมาสก่อน FTREIT ได้ประกาศจ่ายผลตอบแทนในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2565 รวม 0.3450 บาทต่อหน่วยทรัสต์
ปัจจุบัน ทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของกองทรัสต์ FTREIT ประกอบด้วย อาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 641 ยูนิต บนพื้นที่ให้เช่ารวม 2.06 ล้านตารางเมตร โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และจังหวัดในพื้นที่อีอีซี
นายธนะรัชต์ บุญญะโกศล กรรมการผู้จัดการ FIRM เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก FTREIT สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายได้อย่างเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยยังคงรักษาอัตราการเช่าเฉลี่ย (Average Occupancy Rate) ได้อยู่ในระดับสูง ที่ 87.0% ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 กอปรกับปัจจัยสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบกับกลุ่มอุตสาหกรรมในด้านต้นทุนโลจิสติกส์ จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ทำให้กลุ่มผู้เช่าชะลอการส่งออก และมีความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าในระยะสั้นเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้ FTREIT ได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยคาดว่าแนวโน้มดีมานด์จะยังคงเติบโตไปจนถึงสิ้นปี 65
“เพื่อสร้างการเติบโตแก่กองทรัสต์และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ในครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2565 FTREIT จะเดินหน้าบริหารงานเชิงรุก ด้วยการเพิ่มเติมผู้เช่าในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีการเติบโตเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอในสัดส่วนที่มากขึ้น รวมถึงลงทุนปรับปรุงคุณภาพทรัพย์สินที่มีศักยภาพ (Asset Enhancement Initiative หรือ AEI) เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ พร้อมเข้าลงทุนในทรัพย์สินในทำเลยุทธศาสตร์ทางด้านการผลิต และโลจิสติกส์จากทั้งกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) และจากกลุ่มบุคคลอื่นในปีนี้ ” นายธนะรัชต์ กล่าว