HoonSmart.com>> ผู้ถือหุ้น “ฐิติกร” เคาะจ่ายปันผลปี 64 หุ้นละ 0.50 บาท รวม 250 ล้านบาท ฉลองครบรอบ 50 ปี กำหนดจ่ายเงิน 19 พ.ค.65 ย้ำตั้งเป้าเดินหน้าลุยธุรกิจหลัก ขยายตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศรวมทั้งต่างประเทศ และเสริมทัพดันเป้าเติบโตจากธุรกิจอื่นๆ บริการสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน และนายหน้าประกันวินาศภัย คาดเติบโตรวม 40% ในปี 65
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า แม้ช่วงปีที่ผ่านมาการดำเนินธุรกิจและความเคลื่อนไหวของตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่ออื่น ๆ ในประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายจากตัวแปรของปัจจัยภายนอกที่เหนือการควบคุมหลายรูปแบบ ทั้งภาวะเศรษฐกิจภาพรวม ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภัยพิบัติจากธรรมชาติต่าง ๆ เป็นต้น แต่ TK ก็ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจได้โดยไม่สะดุด ด้วยการยึดกลยุทธ์ทางธุรกิจสำคัญ คือ การบริหารการเงินอย่างระมัดระวัง เน้นรักษาสถานะเงินสดของบริษัทฯ ในระดับที่พร้อมลงทุนและเติบโตได้ทันทีที่จังหวะและโอกาสเอื้ออำนวย
“จากการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ของ TK ผนวกกับการมีทีมผู้บริหารและพนักงานที่พร้อมปฏิบัติงานให้บรรลุตามเป้าหมายดังกล่าว ทำให้ปี 2564 ที่ผ่านมา อัตราลูกหนี้เช่าซื้อรวมในพอร์ตของ TK จากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศมีรวมกว่า 3,949 ล้านบาท รวมทั้งมีการบริหาร และการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้ผลประกอบการในปี 2564 มีกำไรและสามารถอนุมัติจัดสรรกำไร พร้อมจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมาให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท รวมเป็นเงิน 250 ล้านบาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พ.ค.2565” นางสาวปฐมา กล่าว
ด้านนายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร (TK) กล่าวว่า จากภาพรวมปี 2564 ที่ผ่านมา ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การใช้ชีวิต และพฤติกรรมผู้บริโภค นับเป็นตัวแปรที่ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการพัฒนากิจการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการตลาดในยุคปัจจุบันมากขึ้น โดยในปี 2565 ยังคงเน้นเดินหน้าธุรกิจหลักเช่าซื้อ โดยเน้นเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมเพิ่มการเติบโตปี 2565 ด้วยบริการใหม่ ทั้งจากบริการสินเชื่อส่วนบุคคล โดย บริษัท ทีเค เงินทันใจ จำกัด สินเชื่อจำนำทะเบียน และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย โดย บริษัท ทีเค โบรคเกอร์ จำกัด หรือ TK Broker
พร้อมการตั้งเป้ารวมธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศปีนี้ให้เติบโต 40% ซึ่งจากการประเมินภาพรวมตลาดและแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจะมาจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 40% จากปีที่ผ่านมา และจากต่างประเทศทั้งในกัมพูชาและ สปป. ลาว ที่คาดว่าจะเติบโตรวม 30% ทั้งนี้ ยังผนวกกับแผนความพร้อมเตรียมลุยขยายต่างประเทศ ด้วยความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคทั้งในกัมพูชาและ สปป.ลาว ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี เป้าหมายดังกล่าวยังคงมีตัวแปรซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่เหนือการควบคุม ทั้งสถานการณ์ทางการเมืองของโลก ภาวะเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และด้านภัยพิบัติจากธรรมชาติต่าง ๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าในปี 2565 สถานการณ์ต่าง ๆ จะเริ่มคลี่คลายมากขึ้น และจะสามารถช่วยผลักดันตลาดเช่าซื้อรถรถจักรยานยนต์ให้เติบโตไปพร้อม ๆ กับการที่ภาครัฐมีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้กลับสู่ภาวะปกติและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง