หุ้นเช้านี้พุ่ง 13.19 จุด ขานรับผลประชุมเฟดตามคาด

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้พุ่ง 13.19 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% และทยอยรับลดขนาดงบดุล เป็นไปตามตลาดคาด นอกจากนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมัน-ราคาถ่านหิน-ค่าการกลั่นพุ่งแรง ส่วนกลุ่มธนาคารได้แรงหนุนจากบอนด์ยีลด์ปรับขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,650-1,645 แนวต้าน 1,660-1,668 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 5 พ.ค.2565 ณ เวลา 10.06 น. อยู่ที่ระดับ 1,665.48 จุด เพิ่มขึ้น 13.19 จุด หรือ +0.80% มูลค่าซื้อขาย 9,367.38 ล้านบาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้าตามตลาดสหรัฐฯ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% และจะทยอยปรับลดขนาดงบดุล ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ อีกทั้งเฟดได้ส่งสัญญาณว่า การประชุมเฟดครั้งถัดไปวันที่ 14-15 มิ.ย.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแค่ 0.50% จากที่ตลาดคาดจะปรับขึ้น 0.75% และการประชุมเฟดในวันที่ 26-27 ก.ค.ก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% เช่นกัน

นอกจากนี้ ตลาดฯยังจะได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแรง จากที่อียูจะคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ซึ่งไม่เพียงแต่ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ราคาถ่านหินก็พุ่ง 10.2% ค่าการกลั่นปิดล่าสุดก็ขึ้นมาถึง 26.60 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทำให้ตลาดฯน่าจะได้รับแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน, ถ่านหิน และโรงกลั่น มาช่วยหนุน รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มธนาคารก็ได้รับผลบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวขึ้นหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ทั้งนี้ ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน, การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้, การแพร่ระบาดโควิด-19 ในจีน และเศรษฐกิจจีนจะเป็นอย่างไรบ้าง รวมถึง MSCI จะมีการปรับน้ำหนักลงทุนในวันที่ 12 พ.ค.นี้ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,650-1,645 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660-1,668 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP อยู่ที่ 157.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท หรือ +5.72% มูลค่าซื้อขาย 1,002.34 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.33% มูลค่าซื้อขาย 547.71 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +3.28% มูลค่าซื้อขาย 516.99 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 209.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.42% มูลค่าซื้อขาย 458.43 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 117.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 294.33 ล้านบาท