HoonSmart.com>>หุ้น BIS เปิดเทรดวันแรกที่ 11.00 บาท เหนือจอง 83.33% แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 อยู่ที่ 119 ล้านบาท (+65% YoY) และ 137 ล้านบาท (+15% YoY) คาดรายได้กลับมาฟื้นตัวได้ดีหลังจากผลกระทบโควิด-19, ASF ได้อานิสงส์จากราคาอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ด้าน Gross Margin ดีขึ้นเป็น 18.5% เพิ่มขึ้นจาก 17.6% ของปี 64
หุ้น BIS เปิดเทรดวันแรกที่ 11.00 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท หรือ +83.33% จากราคาขาย IPO ที่ 6.00 บาท/หุ้น
บล.เคทีบีเอสที ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ของบริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ (BIS) ที่ 7.00 บาท โดยใช้วิธี 2565 PER ที่ 18.40X โดยอิงจากค่าเฉลี่ยของบริษัทที่มีลักษณะธุรกิจที่ใกล้เคียงกันในตลาด โดยมองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยมีการเติบโตกำไรสุทธิ 2564-2566 CAGR ที่ 37%
ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 อยู่ที่ 119 ล้านบาท (+65% YoY) และ 137 ล้านบาท (+15% YoY) จากคาดว่ารายได้ที่กลับมาฟื้นตัวได้ดีหลังจากผลกระทบโควิด-19, ASF ได้อานิสงส์จากราคาอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ด้าน Gross Margin ปรับตัวดีขึ้นเป็น 18.5% เพิ่มขึ้นจาก 17.6% ของปี 2564 จากการผลิตสินค้าภายในโรงงานตัวเองแทนการจ้างบริษัทอื่นผลิตให้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายและคุมต้นทุนได้มากขึ้น
BIS เป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยง มีจุดเด่นด้านยาและวัคซีน, อาหารเสริม และชุดตรวจโรค และมีฐานลูกค้าสำคัญคือบริษัทผู้เลี้ยงสัตว์ชั้นนำในประเทศไทยได้แก่ CPF, Betrago, TFG และ GFPT รวมถึงบริษัทยังมีพันธมิตรจากผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกกระจายมากกว่า 13 ประเทศ โดยบริษัทมีจุดแข็งจากการมีสินค้าหลากหลายครอบคลุมการเลี้ยงสัตว์ครบวงจร มีทีม R&D ที่แข็งแกร่ง และมีโรงงานเป็นของตัวเอง นอกจากนี้บริษัทได้คิดค้นชุดตรวจโรค ASF ในหมู และชุดตรวจโควิดที่สามารถใช้กับคน สัตว์ และอาหาร เจ้าแรกของไทย ขณะที่ปัจจุบันทางบริษัทอยู่ระหว่างคิดค้นสารทดแทนไขมันเพื่อลดปริมาณการใช้วัตถุดิบในกลุ่มพลังงานในสัตว์ โดยคาดว่าโรงงานแล้วเสร็จในไตรมาส 2/65 และจัดจำหน่ายในไตรมาส 3/65 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรในระยะยาว