HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,670.49 จุด ลดลง 4.84 จุด ยังกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด-บาทอ่อนค่าชัดเจนหวั่นกระทบ Fund Flow-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน แนวโน้มภาคบ่ายคาดแกว่งลบ แต่ภาพรวมคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยไม่ควรหลุดแนวรับ 1,670 แนวต้าน 1,690 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 26 เม.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,670.49 จุด ลดลง 4.84 จุด หรือ -0.29% มูลค่าการซื้อขาย 47,027.40 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,685.42 จุด และต่ำสุด 1,669.50 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงเช้าปรับตัวขึ้นไปได้แต่ไม่มาก หลังจากปรับตัวลงลึกตอบรับความเสี่ยงไปแล้ว ทำให้มีแรงดีดกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะเดียวกันก็ยังกังวลปัจจัยเดิม ๆ อย่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก่อนที่จะถึงวันประชุมเฟด ตลาดฯคงจะเหวี่ยงก่อน
ส่วนเงินบาทก็อ่อนค่าชัดเจน ขณะนี้ทะลุ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้วิตกอาจจะกระทบ Fund Flow หรือไม่ ซึ่งช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติก็ขายสุทธิจากก่อนหน้านี้ได้ซื้อสุทธิมาตลอด ทำให้ต้องจับตาทิศทาง Fund Flow นอกจากนี้ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และยุโรปที่จะออกมาในสัปดาห์นี้ ก่อนการประชุมเฟด ประกอบกับติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/65 ต่อไป
สำหรับแนวโน้มภาคบ่าย ตลาดฯมีโอกาสเคลื่อนไหวในแดนลบ แต่ภาพรวมก็คงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยไม่ควรหลุดแนวรับ 1,670 จุด แนวต้าน 1,690 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
FORTH ปิดที่ 44.25 บาท ลดลง 6.75 บาท หรือ -13.24% มูลค่าซื้อขาย 1,830.28 ล้านบาท
JUTHA ปิดที่ 1.41 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +7.63% มูลค่าซื้อขาย 1,654.11 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.66% มูลค่าซื้อขาย 1,415.97 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 68.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.74% มูลค่าซื้อขาย 1,247.12 ล้านบาท
JMT ปิดที่ 85.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.18% มูลค่าซื้อขาย 1,189.08 ล้านบาท