SCB โชว์กำไร 10,193 ลบ.Q1/65 สำรองลด 12.6% แลกหุ้น SCBX สำเร็จ

HoonSmart.com>>”ธนาคารไทยพาณิชย์”เปิดไตรมาส 1/65  กำไรสุทธิโต 1% มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ  24,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 9.9% เหลือ  12,960 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน  15,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9%  ตั้งสำรอง 8,750 ล้านบาท ลดลง 12.6%  อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลดเหลือ 3.79%  “อาทิตย์”เผยความสำเร็จในการแลกหุ้น SCBX   มั่นใจปรับโครงสร้าง เพิ่มมูลค่าระยะยาว 

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)  มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2565 จำนวน 10,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการขยายตัวของฐานรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและการตั้งเงินสำรองที่ลดลง

ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองจำนวน 21,713 ล้านบาท ลดลง 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและการลงทุนที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้วที่มีการปิดเมืองเป็นวงกว้าง

ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ  24,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการบริหารต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้นในขณะที่สินเชื่อรวมขยายตัวเล็กน้อย

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 9.9% เหลือจำนวน 12,960 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลของการลดลงของรายได้จากเงินลงทุน และการชะลอตัวของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งภายใต้สถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 15,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมที่เพิ่มมากขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารอยู่ที่ 42.4% ในไตรมาส 1 ของปี 2565

ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 8,750 ล้านบาท ลดลง 12.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ภายหลังจากที่ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองไว้ในระดับที่สูงกว่าสภาวะปกติตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมี.ค.2565 อยู่ที่ 3.70% ลดลงจาก 3.79% ณ สิ้นปี 2564 ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 143.9% และเงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.6%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสแรกสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงมีความเปราะบางและมีความแตกต่างในแต่ละภาคส่วน อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายและความผันผวนอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ผ่านโครงการการปรับโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จ ปัจจุบันยอดสินเชื่อภายใต้โครงการฯ (มาตรการสีฟ้า) มีจำนวน 249,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ธนาคารมีความยินดีกับผลสำเร็จของการแลกหุ้นของธนาคารไปสู่บริษัท เอสซีบี เอกซ์  ที่ได้รับการตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นมากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และฝ่ายจัดการมีความเชื่อมั่นที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวจากการปรับโครงสร้างนี้