ผถห. MTC ไฟเขียวปันผล 0.37 บาท/หุ้น ปี 65 สินเชื่อทะลุ 1 แสนลบ.

HoonSmart.com>>ผู้ถือหุ้น”เมืองไทย แคปปิตอล” มีมติเอกฉันท์อนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.37 บาท/หุ้น ขึ้น  XD วันที่ 28 เม.ย. รับเงิน 17 พ.ค.นี้ บิ๊กบอส “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ”ปักธงปี 65 พอร์ตสินเชื่อทะลุ 1 แสนล้านบาท บุกปล่อยกู้รากหญ้าครบวงจร เร่งทำการตลาด ปล่อยกู้ซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่-เครื่องใช้ไฟฟ้า ตามคอนเซ็ปต์ “ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง” มั่นใจดันผลงานโตกระฉูด  เป้าหมาย 4 ปีข้างหน้า สินเชื่อแตะ 2 แสนล้านบาท

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ผู้นำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ของเมืองไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 19 เม.ย. 2565 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2564  ในอัตรา 0.37 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ และจ่ายเงินปันผลวันที่ 17พ.ค. 2565

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อพุ่งขึ้นไปแตะที่ระดับ 100,000 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักคือ เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) และธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่ คือ เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) และเมืองไทย เพย์ เลเทอร์ (MTPL)  มีการวางแผนการทำตลาดทั้งลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระหนี้ดี และการเพิ่มลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการใช้บริการผ่านการดำเนินงานของสาขาที่มีบริการมากกว่า 5,800 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดสาขาใหม่กว่า 700 สาขาต่อปี

ส่วนแผนการเติบโตในอีก 4 ปี  บริษัทฯวางเป้าพอร์ตสินเชื่อทะลุ 200,000 ล้านบาทในปี 2569 เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว เทียบปีนี้ บริษัทฯต้องเติบโต 20-25% ต่อปี ตลอด 4 ปี รวมทั้งควบคุมหนี้เสียไม่เกิน 2% และลดดอกเบี้ยในระดับที่เหมาะสมกับลูกค้า

“เราให้ความสำคัญกับการให้บริการที่ไม่เอาเปรียบลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ MTC ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยรับผิดชอบการปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพของสาขา โดยการเปิดสาขา เน้นจุดที่มีชุมชน และมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมากเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าและลดข้อร้องเรียน”นายชูชาติกล่าว

นอกจากนี้ ในปี 2565 บริษัทฯ ได้เร่งทำการตลาดเพิ่มอีก 2 ธุรกิจ คือ บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง ที่ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยตั้งเป้าว่าในปี 2565 จะมียอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 10,000 ล้านบาท และบริษัท เมืองไทย เพย์ เลเทอร์   ที่ให้บริการซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง กับกลุ่มลูกค้าเดิม และหาลูกค้าใหม่มาเพิ่มเติม โดยการเสนอสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ,คอมพิวเตอร์ , เครื่องใช้และของใช้ในบ้าน ตามนโยบาย ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง ซึ่งทั้ง 2 บริษัท ถือหุ้นโดยเมืองไทย แคปปิตอล เกือบ 100%

ประธานกรรมการบริหาร MTC กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อในปี 2565 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังรัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติม ทำให้บริษัทฯสามารถรุกตลาดและขยายสาขาได้มากขึ้น อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากการเปิดบริการเมืองไทย เพย์ เลเทอร์ ทำให้ขยายฐานลูกค้าและกลุ่มสินเชื่อให้มีความหลากหลาย ทำให้เป็นปัจจัยผลักดันสินเชื่อเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ในปี 2564 MTC มีกำไรสุทธิรวม 4,945 ล้านบาท จากรายได้รวม 16,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,286 ล้านบาท หรือ 8.73% เทียบปี 2563 มีรายได้รวม 14,733 ล้านบาท