HoonSmart.com>>สำนักงาน ก.ล.ต. ยืนยันการลงโทษทางแพ่งคดีอินไซด์ฯซื้อหุ้น ไม่มีพลาด เผยกลไกการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน หาข้อเท็จจริง เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ มีตลาดหลักทรัพย์เป็นด่านแรก หากมีเหตุสงสัย ส่งเรื่องต่อให้สำนักงานทำงานเชิงลึกต่อไป เผยหากยืนยันว่าไม่ผิด ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ ต้องไปต่อสู้ในชั้นศาล
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า การดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยอาศัยข้อมูลภายใน (อินไซด์เดอร์เทรดดิ้ง) ในการซื้อหุ้นว่า ไม่มีผิดพลาด เพราะมีขั้นตอนและกลไกในการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน มีการตรวจสอบอย่างละเอียด และมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมพิจารณาด้วย
ขั้นตอนการทำงาน เริ่มตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) มีการติดตามการซื้อขาย รวบรวมพยานหลักฐาน หากมีเหตุสงสัยว่ามีการกระทำความผิดก็เสนอให้คณะอนุกรรมการพิจารณา ซึ่งก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 100% ก่อนที่จะส่งเรื่องต่อให้สำนักงานก.ล.ต.ดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกต่อไป ต้องใช้อำนาจทางกฎหมาย ในการหา รวบรวมพยานหลักฐาน และเปิดโอกาสให้ผู้กระทำความผิดชี้แจง แต่ละคดีใช้เวลานานกว่าจะได้ข้อสรุป ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ในทางปฎิบัติสำนักงานก.ล.ต.ไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้มาตรการทางแพ่งได้เอง จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ทั้งนี้ ค.ม.พ. ประกอบด้วย 1. อัยการสูงสุด 2. ปลัดกระทรวงการคลัง 3. อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) 4.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และ 5.เลขาธิการ ก.ล.ต. โดยก.ล.ต.เสนอข้อเท็จจริงให้พิจารณา ดูพยานหลักฐาน จนแน่ใจว่ามีความผิดจริง ถึงจะให้ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง
“กลไกการตรวจสอบ หาผู้กระทำความผิดในตลาดหุ้น มีตลาดหลักทรัพย์เป็นด่านหน้า หากมีข้อสงสัย ก็ส่งเรื่องต่อมาให้สำนักงานก.ล.ต. ซึ่งการทำงานมีการเช็ค แอนด์ บาลานซ์ ตลอด เพื่อไม่ให้มีความผิดพลาด ที่สำคัญแต่ละหน่วยงานมีผู้เชี่ยวชาญ มีระบบ เครื่องไม้เครื่องมือและมีอำนาจทางกฎหมายในการหาพยานหลักฐาน แตกต่างจากการตรวจสอบกันเองภายในบริษัทจดทะเบียน”แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง กรณีใช้อินไซด์ฯในการซื้อหุ้น เห็นว่าการตัดสินไม่ถูกต้อง ยืนยันว่าไม่ผิด ไม่มาชำระค่าปรับ ก็ต้องไปต่อสู้ พิสูจน์ตัวเองในชั้นศาลต่อไป