MFC : US inflation nears the peak

Highlighted Funds

MGF : ลงทุนในหุ้นเติบโตคุณภาพดี (Quality Growth Stock) มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาด เนื่องจากหุ้นประเภทนี้มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูง มีกำไรและรายได้เติบโตสม่ำเสมอ อีกทั้งยังทนกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่เงินเฟ้อและดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นได้ดี

M-EDGE : โอกาสลงทุนในหุ้นที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และเติบโตอย่างยั่งยืน คัดเลือกลงทุนหุ้นคุณภาพดี สามารถสร้างมูลค่าได้เหนือกว่าดัชนีหุ้นโลก อีกทั้ง กองทุนกระจายการลงทุนไปในธุรกิจที่มี business cycle ต่างกัน และหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง

MCHINA : ลงทุนในหุ้นจีน A-shares ซึ่งได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในระยะยาว จากกลุ่มชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน Valuation อยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก โดย Forward P/E ของดัชนี CSI300 อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ -0.5 S.D.

MCHEVO : ลงทุนในหุ้นจีน All Shares ใน China Evolution Theme บริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ของจีน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1. กลุ่มการบริโภค 2. กลุ่มเทคโนโลยี 3. กลุ่มอุตสาหกรรม 4. กลุ่มพลังงานสะอาด 5. กลุ่มยาและสุขภาพ

MRENEW : ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานยั่งยืนและพลังงานทดแทนทั่วโลก (Renewable Energy) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันได้รับประโยชน์จากที่ยุโรปจะหันไปใช้พลังงานทางเลือกและเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดให้เร็วขึ้น อีกทั้ง ปัจจุบันราคาปรับฐานลงมาอยู่ในระดับราคาที่น่าสนใจลงทุน

 
Investment Strategy

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือนมีนาคม ประกาศออกมาเพิ่มขึ้น 8.5%YoY สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.4%YoY โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น 32%YoY และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น 8.8%YoY แต่หากไม่รวมส่วนของอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 6.5%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 6.6%YoY ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี ที่ระดับ 2.85% เรามองว่าสถานการณ์เงินเฟ้อในเดือน มี.ค. ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะรายงานออกมาอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อในเดือน เม.ย. ว่าจะมีแนวโน้มลดลงและทำให้อัตราเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดในเดือน มี.ค. ไปแล้วหรือไม่

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดย ECB ยืนยันแผนการที่จะยุติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ APP (Asset Purchase Programmes) ในไตรมาสที่ 3 แต่ไม่ได้กำหนดเวลาที่ชัดเจน และจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่ยุติการเข้าซื้อสินทรัพย์แล้ว

จีนรายงาน GDP ไตรมาส 1 ปี 2565 ขยายตัว 4.8%YoY มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.4%YoY อย่างไรก็ตาม ตัวเลข GDP ในไตรมาส 1 ที่ประกาศออกมายังต่ำกว่าเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาลจีนที่ระดับ 5.5% เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด สอดคล้องกับการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยตัดสินใจปรับลด RRR ในอัตรา 0.25% สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 2565