ตลท.เผยต่างชาติลุยซื้อหุ้นไทย 4 เดือนทะลัก 1.31 แสนลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยภาพรวมการซื้อขายหุ้นไตรมาส 1/65 ดัชนีปิดที่ 1,695.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.3% จากสิ้นปีก่อน เหนือค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นอาเซียน ท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยภายนอก ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์กลับมาเปิดเมือง “กลุ่มบริการ-เทคโนโลยี-ทรัพยากร” ปรับตัวดีกว่า SET Index ด้านนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ (ธ.ค.64-มี.ค.65) ยอดสุทธิรวม 1.31 แสนล้านบาท


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนมี.ค.2565 ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นมาก และส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้นสูงเกินกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำให้มีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปีของสหรัฐฯ ที่ติดลบ (Inverted Yield Curve) ทำให้ผู้ลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession)

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากปัจจัยภายในประเทศที่มีความเชื่อมโยงไปยังรัสเซียและยูเครนค่อนข้างน้อย และเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาคบริการและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง ในอนาคต ทำให้เห็น Fund Flow จากผู้ลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ลงทุนต่างชาติย้ายเงินทุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นในภูมิภาค ASEAN โดยในไตรมาส 1/2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยมากที่สุด ทำให้ ณ สิ้นเดือนมี.ค.2565 SET Index ปิดที่ 1,695.24 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.3% จากสิ้นปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN

ทั้งนี้ SET Index ในไตรมาส 1/2565 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มทรัพยากร

สำหรับการซื้อขายในเดือนมี.ค.2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 95,532 ล้านบาท ลดลง 0.4% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ใน ไตรมาส 1/2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,240 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สี่โดยในเดือนมี.ค.2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 32,771 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวม 131,367 ล้านบาท

ด้านบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ในเดือนมี.ค.2565 เข้าตลาด SET 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท บีบีจีไอ (BBGI) ประกอบธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ-ผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง ซึ่งมีมูลค่าเสนอขายกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าติด 1 ใน 5 ของ IPO ใน ASEAN สำหรับไตรมาส 1/2565

ส่วน Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมี.ค.2565 อยู่ที่ระดับ 17.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.3 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 18.4 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า

ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.63% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.41%

สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในเดือนมี.ค.2565 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 701,944 สัญญา เพิ่มขึ้น 14.2% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures, Single Stock Futures และ Gold Online Futures และในไตรมาส 1/2565 TFEX ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 631,382 สัญญา เพิ่มขึ้น 14.6% จากไตรมาส 1/2564