HoonSmart.com>>หุ้น SVI-KCE-HANA ขึ้นนำกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รับ Sentiment บวกจากดัชนี Nasdaq (แนสแด็ก) ปรับขึ้น และเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังลงไปพอควรก่อนหน้านี้ตามปัจจัยเฉพาะตัว อีกทั้งรับประโยชน์จาก EV car ในยุโรป ซึ่งรัฐผลักดันนโยบาย Green energy เต็มที่ และกลุ่ม Smart devices ที่ยังเห็นการเติบโตแรง
หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปิดเทรดเช้าปรับตัวขึ้นทั่วหน้า นำโดยหุ้น SVI บวก 4.85% มาอยู่ที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 124.91 ล้านบาท
หุ้น KCE บวก 2.69% มาอยู่ที่ 66.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 922.31 ล้านบาท
หุ้น HANA บวก 2.59% มาอยู่ที่ 49.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 427.19 ล้านบาท
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นทั่วหน้า ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก ส่วนหนึ่งรับ Sentiment บวกจากดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นตามหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯที่ปรับขึ้น อีกส่วนมองเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปพอควรในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว อย่างหุ้น KCE ได้ปรับตัวลงพอควรก่อนหน้านี้แล้ว จากปัญหาสถานการณ์ยูเครนทำให้มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไปด้วย ซึ่ง KCE ป้อนชิพให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในยุโรป
ส่วน HANA ก็มีปัญหาเฉพาะตัวจากที่ไปเทคโอเวอร์บริษัทมาทำให้ต้องรับผลขาดทุนปีละ 600 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาหุ้น HANA ย่อตัวลงในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี สัญญาณทางเทคนิคยังดูดี โดย KCE ย่ำฐานแถว 64 บาท มาร่วม 2 สัปดาห์แล้ว ส่วน HANA ก็ย่ำฐานแต่ยังติดที่ 51 บาท พร้อมให้กรอบการแกว่งของ KCE มีแนวรับ 65 บาท แนวต้าน 69 บาท ส่วน HANA มีแนวรับ 48.50 บาท แนวต้าน 51 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำหุ้น KCE ราคาเป้าหมาย 74 เป็นอีกหุ้นที่รับประโยชน์ทั้งจากอุตสาหกรรม EV car ในยุโรป ซึ่งรัฐผลักดันนโยบาย Green energy เต็มที่ และกลุ่ม Smart devices ที่ยังเห็นการเติบโตแรง ผู้บริหารคาดว่าปริมาณผลิตในไตรมาส 1/65 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 4/64 แต่การปรับราคาขายขื้น 3-4% ทำให้ยอดขายไตรมาส 1/65 น่าจะอยู่ที่ 110 ล้านเหรียญฯ สูงกว่า 106 ล้านเหรียญฯในไตรมาส 4/64 ราว 3-4% โดยมองกำไรปี 65 +10%
ด้าน Valuation ราคาหุ้นได้เปรียบเชิงต้นทุน มองเป็นจุดซื้อได้ ซื้อขาย PER65 เหลือ 29 เท่า เทียบกับช่วงพีคที่สูง 40x
นอกจากนี้ ได้ Sentiment หนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้น Tesla และ EV จีน และมองราคาหุ้นตอบรับปัจจัยลบจากแนวโน้ม Gross margin อ่อนตัว ช่วงไตรมาส 1-2 ปี 65 จากปัญหาเครื่องจักรใหม่ ยังไม่ราบรื่นไปมากแล้ว และผ่านช่วง Earnings cut จากตลาดไปหมดแล้ว