HoonSmart.com>>หุ้นมีโอกาสทะลุแนวต้านสำคัญ 1,700 ไปได้ จากแรงซื้อของต่างชาติไม่มีตก เก็บอีก 3 พันล้านบาท รวมไตรมาส 1/65 กว่า 1.1 แสนล้านบาท สงครามยูเครนผ่อนคลาย ราคาน้ำมันดิบลดลง กนง.หั่นเป้าเศรษฐกิจปีนี้ลงเล็กน้อยโต 3.2% คลังยืนยันเป้า 3.5-4.5% บล.กสิกรไทยเตือนขึ้นต่อจำกัด ไม่ควรเพิ่มพอร์ต บล.ทรีนีตี้เห็นโอกาสหุ้น Growth เชียร์ 10 หุ้นเด่น SA, TSR, SIMAT, IP, SVOA, IT, SUN, CHAYO, LEO, AMR
วันที่ 30 มี.ค.2565 หุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามภูมิภาค ยกเว้นญี่ปุ่น-0.80% โดยตลาดจีนบวกแรงสุด 1.96% รับข่าวดีสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนผ่อนคลาย ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ส่วนปัจจัยในประเทศได้รับแรงหนุนจากที่ประชุมกนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ตามคาด และหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 ลงเล็กน้อยจาก 3.4% เหลือ 3.2% กระทรวงการคลังคงเป้าหมายการเติบโต 3.5-4.5% จากส่งออกโต 5% หรืออาจจะสูงถึง 10%ผลักดันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ขึ้นไปสูงสุดที่ 1,702.67 จุด แต่ยืน 1,700 จุดไม่อยู่ ย่อลงปิดที่ 1,698.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด หรือ +0.51% มูลค่าซื้อขาย 97,951.67 ล้านบาท
แรงซื้อสำคัญยังคงมาจากนักลงทุนต่างชาติ 3,301.86 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนไทย 3 กลุ่มขายสุทธิ โดยเฉพาะรายย่อยทำกำไรอย่างต่อเนื่องอีก 2,391.92 ล้านบาท โดยรวมไตรมาส 1/2565 ต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1.1 แสนล้านบาท ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์บวก 2.46%
มาร์เก็ตติ้งกล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง ส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายกลุ่ม โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า จึงเกิดแรงซื้อหุ้น ราคาที่ปรับตัวขึ้นมีน้ำหนักต่อตลาดสูง รวมถึงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่างประเทศ และธีมเปิดเมืองเริ่มมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว เช่น CPN -CPALL- ระหว่างวันยังมีข่าวบวกจากกระทรวงดิจิทัลฯ (DE) เตรียมเปิดให้ประมูลคลาวด์กลาง มูลค่า 6,216 ล้านบาท สนับสนุนให้หุ้นกลุ่มไอเทคปรับตัวขึ้น
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า หุ้นปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังมีความคืบหน้าการเจรจาระหว่างรัสเซีย และยูเครน ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายได้ แต่ตลาดก็ยังไม่ผ่านแนวจิตวิทยาที่ระดับ 1,700 จุด ทำให้นักลงทุนระยะสั้นขายทำกำไรออกมาก่อน
นอกจากนี้สัปดาห์หน้า จะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 นักลงทุนจีงชะลอการลงทุน Wait & See เพื่อรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก่อน และรอดูตัวแลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะทยอยออกมาด้วย โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ เนื่องจากจะมีผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 31 มี.ค.2565 นักลงทุนคงจะระวังการลงทุนมากขึ้นเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,700 จุด แต่เชื่อว่าดัชนีฯไม่น่าจะปรับตัวลงแรง จากความคาดหวังสถานการณ์ยูเครนที่น่าจะผ่อนคลายได้ พร้อมให้แนวรับ 1,690 จุด แนวต้าน 1,700-1,716 จุด
ด้านบล.กสิกรไทยมองตลาดขึ้นจำกัด ไม่ควรเพิ่มพอร์การลงทุน สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น เน้นธีมราคาน้ำมันลง-สงครามคลี่คลาย แนะ SCGP, EPG, GPSC, BGRIM ส่วนการลงทุนระยะยาว แนะนำ 4 กลุ่มได้แก่ การเงิน, เครื่องดื่ม กลุ่ม Tech Consult อาทิ BBIK, BE8 และ โรงไฟฟ้า GULF, GUNKUL, SSP
บล.ทรีนีตี้มองปรากฎการณ์ เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค.ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ระดับ 2s10s spread ของสหรัฐลงไปแตะระดับติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นช่วงเวลาที่ดีของหุ้น Growth มากกว่าหุ้น Value สะท้อนผ่านการปรับตัวขึ้นของดัชนี NASDAQ มากกว่าดัชนีดาวโจนส์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงคัดเลือกหุ้นที่มี 3 คุณสมบัติเด่น คือ กำไรต่อหุ้นปีนี้โตเกิน 20% มาร์เก็ตแคปต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ราคายังต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ พบว่า มี 10 หุ้นเด่น ประกอบด้วย SA, TSR, SIMAT, IP, SVOA, IT, SUN, CHAYO, LEO, AMR เรียงลำดับตามการคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปีนี้เติบโต โดย 3 หุ้นแรกกำไรต่อหุ้นมีโอกาสพุ่งขึ้นถึง 100%