APM ปรับใหญ่โครงสร้างองค์กร เพิ่มธุรกิจ จ่อเข้าตลาดหุ้นอีก 3 ปี

HoonSmart.com>>“แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์” จัดทัพครั้งใหญ่ ทั้งโครงสร้างองค์กร-ผู้ถือหุ้น  เพิ่มบุคคลากร เตรียมความพร้อมเข้าตลาดหุ้นอีก 3 ปี  คาดมีลูกค้า IPO  ไม่ต่ำกว่า 20 ดีล   ธุรกิจซื้อขายกิจการ ร่วมทุนโต พร้อมรุกธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทในกลุ่ม CLMV  เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  มองเห็นโอกาสของนักลงทุนในการซื้อ Startups และ SMEs ในกระดาน 3 ก่อนยกระดับเข้า SET และ mai 

นาย สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายใน 3 ปี หลังจากได้ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่  และปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ปรับโครงสร้างผลตอบแทนพนักงาน  ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับการเติบโต สร้างองค์กรสู่ความยั่งยืนในอนาคต ควบคู่ไปกับการเติบโตของตลาดทุน  และตลาดเงินไทย ด้วยการพัฒนาบุคลากรทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย มีความซับซ้อนในเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีการนำเสนอนวัตกรรมและเครื่องมือทางการเงินแบบใหม่ที่ทันสมัย  เสมือนเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่พร้อมเดินเคียงข้างไปกับลูกค้า เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของลูกค้าได้

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะจัดตั้ง APM Academy ซึ่งจะเป็นสถาบันฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรที่ประกอบวิชาชีพที่ปรึกษาทางการเงิน  ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินในอนาคตอย่างเป็นระบบ

ขณะเดียวกัน APM ยังเตรียมจัดสรรบุคลากร เพื่อรองรับการขยายงานด้านที่ปรึกษาทางการเงินไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีความพร้อมและศักยภาพ ภายใต้กฎเกณฑ์การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งในรูปแบบการจดทะเบียนทั้งสองตลาดหรือ Dual-listed Company และ Secondary Listing Company  ถือว่าจะเป็นประโยชน์ ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าที่สูงขึ้นและเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน  ทำให้กลายเป็นศูนย์กลางการระดมทุนของบริษัทในกลุ่ม CLMV ได้ในอนาคต

“APM ถือเป็นองค์กรที่มีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขับเคลื่อนภาคธุรกิจให้สามารถแข็งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ APM มีการพัฒนาองค์กรและบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความยั่งยืน และเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงการผลักดันธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินให้กับกลุ่มประเทศ CLMV จนทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นศูนย์กลางการระดมทุนระดับภูมิภาค” นายสมภพ กล่าว

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM กล่าวว่า ในปี 2565 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าในทุกกลุ่ม ทั้ง IPO การปรับโครงสร้างหนี้ การหาแหล่งเงินทุน รวมถึงการควบรวมกิจการและการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และการประเมินมูลค่าหุ้นหรือกิจการ ตลอดจนได้ศึกษารายละเอียดของธุรกิจและเครื่องมือทางการเงินอื่น เช่น กลุ่ม Digital Asset เพื่อให้คำแนะนำกับลูกค้า เพื่อก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุดให้กับลูกค้า

ปัจจุบันบริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบีนรวมมากกว่า 20 บริษัท คาดว่าจะนำเข้าซื้อขายในปีนี้จำนวน 3-4 บริษัท โดยเพิ่งยื่นไฟลิ่งบริษัท เจริญอุตสาหกรรม (CH)  อย่างไรก็ตามมีลูกค้าส่วนหนึ่ง ผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด จึงเลื่อนการเข้าตลาดไปปี 2566-2568 ทั้งนี้หุ้น IPOmี่เสนอขายในช่วงนี้ ให้ส่วนลดเป็นพิเศษสอดคล้องกับภาวะตลาดหุ้น

นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมการเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าประเภทสินทัพย์ดิจิทัล แต่ต้องรอกฎหมายและกฎเกณฑ์ ปัจจุบนมีลูกค้าที่มีความต้องการออกและเสนอขายเหรียญโทเคน นอกจากนี้บริษัทยังมีกลุ่มลูกค้าที่สนใจซื้อกิจการ (M&A) และร่วมทุน ในกลุ่มธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์

ส่วนงานในกลุ่ม CLMV บริษัทมีสำนักงาน APM ลาว และ APM กัมพูชา มีบริษัทต่างประเทศที่สนใจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา กระดาน 3 หรือ Live Exchange  เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของกลุ่ม Startups และ SMEs ซึ่ง APM ได้มีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำกับกลุ่ม Start Ups และ SMEs ในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดข้างเคียง ร่วมกับหอการค้าจังหวัดขอนแก่น  สร้างการเติบโตสำหรับปูทางเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต  ซึ่งเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้าซื้อหุ้น Startups และ SMEs