HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี 1,660 – 1,670 จุด คาดแรงขายปรับพอร์ตกลุ่มแบงก์กดดัชนี หลัง S&P เรทติ้ง หั่นเครดิต KBANK, SCB, KTB, TTB จากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่งหนุนกลุ่มพลังงาน ประคองดัชนี ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ FSMART, SINGER
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวกรอบแนวรับ 1,660 – 1,670 จุด แนวต้าน 1,680 – 1,685 จุด คาดถูกแรงขายปรับพอร์ตกลุ่มธนาคาร แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานช่วยหนุน และรอประเมินทิศทาง Fund Flow ต่างชาติ แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น OSP, CBG, TH, SMD, MEGA
ด้าน S&P เรทติ้งได้ปรับลดอันดับเรทติ้งของ KBANK, SCB จาก BBB+/Negative เป็น BBB/Stable และปรับลด KTB,TTB จาก BBB/ Negative เป็น BBB-/Stable จากปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนสูง และแนวทางแก้ไขปัญหาไม่ชัดเจน
ภาพรวมดัชนี SET ขาดปัจจัยบวกใหม่ วันนี้ติดตามการประชุม ครม. จะพิจารณามาตรบรรเท่าผลกระทบสินค้าราคาแพง
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ FSMART* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus N.A. บาท) แนวโน้มผลประกอบการกลับมาเติบโตในปี 65 โดยมี Key Driver จากธุรกิจใหม่ตู้กดเครื่องดื่มชงสดเต่าบิน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าติดตั้งให้ได้ 1,000 ตู้ ในปีนี้และ 20,000 ตู้ภายใน 3 ปี สร้างรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท (FSMART ถือหุ้นในสัดส่วน 19.34%)
ขณะที่ธุรกิจเดิมแนวโน้มรายได้ทรงตัวในระดับ 2.7-2.8 พันล้านบาทต่อปี โดยสัดส่วนรายได้จากบริการเติมเงินมือถือจะทยอยลดลง แต่จะชดเชยด้วยการปรับมาให้บริการทางการเงินในฐานะตัวแทนของธนาคาร สามารถให้บริการโอน-ฝาก รวมถึง Mini ATM ที่เริ่มให้บริการถอนเงินผ่านตู้บุญเติม ซึ่งปกติธุรกรรมการถอนเงินสดจะมากกว่าฝากหลายเท่า ตั้งเป้าภายใน 2 ปีข้างหน้า 10,000 ตู้
หุ้น SINGER (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 58.75 บาท) ประสบความสำเร็จในการขยายสาขาผ่านเฟรนไชน์อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าสาขาเฟรนไชน์อยู่ที่ 7,000 สาขาในปีนี้(จาก 3,250 ในปี64) ธุรกิจพอร์ตสินเชื่อยังคงเติบโตได้ดีโดยเฉพาะธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทำเงิน (C4C) ซึ่งใน 4Q64 ที่ผ่านมาสามารถขึ้นไปแตะที่ระดับ 6 พันลบ. โดยทางบริษัทตั้งเป้าปีนี้พอร์ตรวม(C4C+HP+Captive)จะสามารถเติบโตอยู่ที่ระดับ 1.55 หมื่นล้านบาท (จาก 4Q64 อยู่ที่ราว 1.1 หมื่นล้านบาท)
นอกจากนี้ทางบริษัทเองยังมีปัจจัยบวกจากการร่วมมือกับพันธมิตร อย่างเช่น การ ร่วมทุนกับ GUNKUL JMART เปิด JGS เพื่อจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนให้กับกลุ่มรายย่อย/ครัวเรือน โดยสินค้าแรกที่จำหน่ายคือ Solar Rooftop Solutions และ Private PPA เป็นต้น ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี65 และ ปี66 จะขยายตัวได้ต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1.48 บาท/หุ้น, และ 2.08 บาท/หุ้น ตามลำดับ
