ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์รองรับธุรกิจหลักทรัพย์-สัญญาซื้อขายล่วงหน้าควบรวมกิจการ

HoonSmart.com>> ก.ล.ต.ปรับปรุงเกณฑ์ รองรับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกประเภท ควบบริษัทเข้ากัน สามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาต หรือคำขอจดทะเบียนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้บริษัทที่เกิดจากการควบรวมดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง เมื่อการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทมีผลสมบูรณ์ สามารถยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.65 เป็นต้นไป

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในสภาวะที่สภาพเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและภาคธุรกิจมีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบธุรกิจฯ ต่างต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน การควบรวมบริษัทเข้าด้วยกันเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจมีความมั่นคงและแข็งแกร่งมากขึ้น รวมทั้งมีต้นทุนการดำเนินการที่ลดลง ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์จากการควบรวมกิจการด้วย

ก.ล.ต. จึงได้เสนอปรับปรุงกฎกระทรวงเกี่ยวกับการอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเกิดจากการควบเข้ากัน โดยรัฐมนตรีได้ลงนามและประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 รวมทั้งได้ปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมการควบรวมของธุรกิจทุกประเภท จากเดิมที่รองรับเฉพาะธุรกิจบางประเภท

ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจฯ ที่ประสงค์จะควบบริษัทเข้ากันในรูปแบบการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ในลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น สามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาต หรือคำขอจดทะเบียนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้บริษัทที่เกิดจากการควบรวมสามารถประกอบธุรกิจ และรับโอนลูกค้าจากบริษัทเดิมได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนสามารถใช้บริการและทำธุรกรรมได้อย่างต่อเนื่องด้วย ประกาศดังกล่าวข้างต้นจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การควบรวมกิจการในรูปแบบที่จัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ (amalgamation) หมายถึง การรวมกิจการโดยที่บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไปรวมเข้าด้วยกันและเกิดเป็นบริษัทใหม่ (A+B = C) โดยเมื่อควบเข้ากันแล้วจะมีผลทำให้บริษัทเดิมสิ้นสภาพไปพร้อมกัน และบริษัทใหม่จะได้ไปทั้งสิทธิและความรับผิดชอบที่บริษัทเดิมมีอยู่