“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวต้าน 1,680-1,690 จุด แนะ JMT-BJC

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ รับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย วางแนวต้านดัชนี 1,680-1,690 จุด แนะซื้อ KBANK, BBL, TISCO, KKP, BLA หุ้นแนะนำวันนี้ JMT, BJC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนี SET ปรับขึ้น หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย กอปรอัตราดอกเบี้ยไทยอยู่ระดับต่ำช่วยหนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง วางแนวรับดัชนีที่ 1,655 – 1,660 จุด แนวต้าน 1,680– 1,690 จุด แนะนำซื้อ KBANK, BBL, TISCO, KKP, BLA

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังเฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 0.25 – 0.50% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีนี้อีก 6 ครั้ง ครั้งละ 0.25% โดยดอกเบี้ยสหรัฐสิ้นปีนี้คาดอยู่ที่ 1.75 – 2.00% ซึ่งเป็นไปตาม Consensus เพื่อสกัดเงินเฟ้อสูงขึ้น เฟดปรับเป้าเงินเฟ้อปีนี้ขึ้นอยู่ที่ 4.1% จากเดิมคาด 2.7% เนื่องจากวิกฤตรัสเซีย – ยูเครนส่งผลให้ราคาอาหาร, พลังงานสูงขึ้น และได้ปรับลด GDP สหรัฐปีนี้คาด +2.8% จากเดิมคาด +4% และอัตราว่างงานปีนี้อยู่ที่ 3.5% โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ ไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยยังสามารถขยายตัวได้เหนือค่า Median ที่ 1.75%

ส่วนมาตรการ QE จะยุติใน มี.ค. นี้ และพิจารณามาตรการลดงบดุลเฟดในการประชุมครั้งหน้า 3 – 4 พ.ค.

ส่วนดัชนี Stoxx600 +3.06% หลัง รมว.ต่างประเทศรัสเซียเผยใกล้บรรลุข้อตกลงบางส่วน หลังยูเครนยอมรับสถานะเป็นกลางไม่เข้าร่วมสมาชิกนาโต้

ฝั่งเอเชียวานนี้ CSI300 จีน +4.32%, ฮั่งเส็ง +9.08% หลังรองนายกจีนหลิว เหอเผยเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมบริษัทจีนระดมทุนในต่างประเทศและเสริมสภาพคล่องให้กับภาคอสังหา ฯ

หุ้นแนะนำวันนี้ JMT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 74.00 บาท) Consensus คาดแนวโน้มกำไรปี 65 เติบโตราว 40-50%YoY ทำ New High ปัจจัยหนุนจากการเติบโตของธุรกิจบริหารหนี้ตามการเข้าลงทุนหนี้เสียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจให้บริการติดตามหนี้มีแนวโน้มดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากการเปิดเมืองและมาตรการช่วยลูกหนี้ของสถาบันการเงินสิ้นสุดลง ขณะที่แนวโน้มค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงจากการทำเงินเพิ่มทุนไปชำระหนี้ ส่วนความคืบหน้าในการตั้ง JV ร่วมกับ KBANK น่าจะเริ่มดำเนินการได้ใน 2H65

หุ้น BJC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท) กำไรสุทธิในช่วง 4Q64 อยู่ที่ระดับ 11,383 ล้านบาท (+2.15% YoY, +276.58% QoQ) โดยรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 37,317 ล้านบาท (+6.31% YoY, +8.27% QoQ) ฟื้นตัว YoY ทั้ง 4 หน่วยธุรกิจ ปัจจัยหนุนกำไรนอกจากยอดขายแล้วยังมาจากรายได้ในส่วนของค่าเช่าที่ Margin สูงปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 2,950 ลบ.(-13.52% YoY, +26.05% QoQ)

เบื้องต้นประเมินว่า ภาพของการฟื้นตัวในช่วง 1Q65 ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง YoY อ้างอิงจาก Google Mobility Chage เดือน ม.ค.–ก.พ. 65 ซึ่งปรับตัวเดียวขึ้นเมื่อเทียบกับ ม.ค.–ก.พ. 64 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากม.กระตุ้นของภาครัฐฯโดยเฉพาะ “ช็อปดีมีคืน”(01 ม.ค. – 15 ก.พ.65) ที่จะช่วยหนุนยอดขายอีกทางหนึ่งในช่วง 1Q65