HoonSmart.com>> “เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง” แจงกลุ่มผู้ถือหุ้น TKN ไม่ได้ขายหุ้น Big Lot ชี้ MAJOR ทยอยเข้าซื้อหุ้นในกระดาน 5% สะท้อนความเชื่อมั่น ยันไม่กระทบโครงสร้างจัดการและนโยบายดำเนินธุรกิจ โอกาสสร้าง Synergy สร้างความแข็งแกร่งร่วมกัน ด้านโบรกฯ มองบวก MAJOR ต่อยอดการเติบโตธุรกิจ ส่ง “ป๊อปคอร์น” บุกตลาดจีน คาดผลงานปี 65 พลิกฟื้นมีกำไร
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า จากกรณีข่าวบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ได้เข้าซื้อหุ้น TKN จำนวน 69 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5% ซึ่งบริษัทฯ ขอชี้แจงว่ากลุ่มผู้ถือหุ้น TKN ไม่มีการขายหุ้น Big Lot ให้กับ MAJOR แต่อย่างใด เป็นเพียงการทยอยเข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของทาง MAJOR เท่านั้น อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการและนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด
“การที่ MAJOR เข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัทฯ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพและโอกาสเติบโต และจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีการ Synergy เพื่อสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันในอนาคต เพราะ TKN มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจขนมขบเคี้ยว ส่วน MAJOR มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงภาพยนตร์” นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ MAJOR รายงานการได้มาหุ้น TKN เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2565 จำนวน 69 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากก่อนหน้าไม่ได้ถือหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า MAJOR เข้าซื้อหุ้น TKN 5% จำนวน 69 ล้านหุ้น เป็นการซื้อบนกระดาน ราคาซื้อขายที่ปรากฎในสื่อ 8.2565 บาท เป็นราคาสูงสุดที่ MAJOR เข้าซื้อ (วันที่ 1 มีนาคม) ไม่ใช่ราคาเฉลี่ย ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการเจรจาทางการค้าร่วมกันแต่อาจมีความร่วมมือในระยะถัดไป
“เราคาดกำไรไตรมาส 1/65 อาจทรงถึงปรับขึ้น Q-Q ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาล็อกราคาสาหร่าย เบื้องต้นประเมินราคาเหมาะสม 8-8.50 บาท แนะเพียงเก็งกำไร”บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุ
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน มองกรณีการเข้าซื้อหุ้น TKN ของ MAJOR ราคาเฉลี่ย 8.2565 บาท/หุ้น โดยซื้อในตลาด ไม่ได้ซื้อ Big lot โดยมอง Slightly Positive
1) เป็นการลงทุนเพื่อต่อยอดโอกาสการเติบโตของธุรกิจ Concession (ป๊อบคอร์น) โดยเฉพาะ TKN มี Connection การส่งสินค้าไปขายที่จีน (คุยกับหลายบริษัท แต่เลือก TKN)
2) นโยบายถือ TKN ไม่เกิน 10% (อาจซื้อเพิ่มหรือขายออกแล้วแต่จังหวะ)
3) การบันทึกการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงินลงทุนเป็นแบบเข้า RE เลยไม่ผ่าน P&L
4) ส่วนการขาย Popcorn ใน 7-11 ยังคุยข้อตกลงและ Test สินค้าอยู่ ยังคง plan เข้า 7-11 ได้อย่างช้าต้นไตรมาส 2/2565
5) ยังเหลือเงินที่ได้จากการขายหุ้น SF อีกกว่า 4 พันล้านบาท มีแผนลงทุนในกิจการอื่นเพื่อต่อยอดการเติบโตของธุรกิจหลัง (โรงภาพยนตร์) เบื้องต้นมีอีก 1 ดีลน่าจะได้ข้อสรุปภายใน2/2565 นี้
6) แนวโน้มไตรมาส 1/2565 ผลประกอบการถูกกดดันจาก Omicron พลิกกลับมาขาดทุนราว – 114 ล้านบาท จากไตรมาส 4/2564 กำไร 100 ล้านบาท และใกล้เคียงไตรมาส 1/2565 ขาดทุน – 120 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไรไตรมาส 2/2565 ฟื้นโดดเด่นเป็นราว 400 ล้านบาท (ช่วงก่อน COVID ไตรมาส2 MAJOR จะมีกำไรราว 500-600 ล้านบาท) จาก Omicron คลี่คลายและมีหนังฟอร์มใหญ่เข้าฉายหลายเรื่องตาม Seasonal
7) บล.โนมูระ พัฒนสิน ยังคงคาดกำไรปี 2565 อยู่ที่ 933 ล้านบาท ฟื้นจากขาดทุน – 710 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรจากการขายหุ้น SF)
ด้านหุ้น TKN ปิดตลาดภาคเช้าที่ราคา 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ +4.00% มูลค่าการซื้อขาย 76.58 ล้านบาท