HoonSmart.com>>หุ้น TRC ซิลลิ่ง 29.41% ผู้บริหารคาดรับผลบวกจากราคาปุ๋ยแพงหลังมีการคว่ำบาตรรัสเซีย ดันราคาโปรแตชเด้งขึ้นราว 1,000 เหรียญฯ/ตัน จากเดิมแค่ 250 เหรียญฯ/ตัน ส่งภาครัฐหันกลับมาหนุนเหมืองโปรแตชอีกครั้ง พร้อมเผยกำลังคุยกับผู้สนใจร่วมทุน 3-4 ราย ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 4.5-5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่มีรายได้ 3,880-3,900 ล้านบาท มี Backlog เกือบ 6 พันล้านบาท พร้อมรุกธุรกิจแพลตฟอร์ม มาร์จิ้นสูง
วันที่ 10 มี.ค. 2565 หุ้น TRC ปิดการซืื้อขายภาคเช้า พุ่งชนซิลลิ่ง 29.41% มาอยู่ที่ 0.44 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท ก่อนปิดที่ 0.43 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาทหรือ 26.47% มูลค่าการซื้อขาย 451.25 ล้านบาท
นาย ภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น เปิดเผยว่า ราคาหุ้น TRC ปรับตัวขึ้นชนซิลลิ่งเช้านี้ คาดว่าจะเป็นผลจากราคาปุ๋ยแพงหลังจากที่มีการคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลให้ภาครัฐฯกลับมาให้ความสนใจเหมืองโปรแตช ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ทำปุ๋ย ซึ่ง TRC ถือหุ้นในบริษัท อาเซียนโปรแตชชัยภูมิ ในสัดส่วน 25% และกระทรวงการคลังถืออยู่ 20% ปัจจุบันได้หยุดดำเนินการ แต่ตอนนี้ราคาโปรแตชวิ่งขึ้นไปราว 1,000 เหรียญฯ/ตัน ก็คงจะต้องหันกลับมาดูอีกที
“ตอนนี้เหมืองโปรแตชได้รับความสนใจมาก ซึ่งกำลังพูดคุยกับที่จะมาผู้ร่วมทุนทำเหมืองอยู่ 3-4 ราย เหมืองนี้เราได้ใบอนุญาตให้ใช้แร่ได้แล้ว หากภาครัฐฯให้การสนับสนุนเราก็จะเริ่มลุยกันใหม่ เพราะราคาโปรแตชขึ้นมาดีด้วยมาถึง 1,000 เหรียญฯ/ตัน ก่อนหน้านี้อยู่แถว 250 เหรียญฯ/ตันเอง“
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRC กล่าวว่า ปีนี้ (2565) บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,500-5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีรายได้ราว 3,800-3,900 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าผลดำเนินงานจะดีขึ้นจากทุกธุรกิจ บริษัทฯมีงานในมือ (Blacklog) อยู่เกือบ 6,000 ล้านบาท และจะมีการเข้าร่วมประมูลงานต่าง ๆ โดยบริษัทลูก”โอลีฟ เทคโนโลยี” ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการขนส่ง ได้เข้าร่วมประมูลงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลในสิ้นเดือนนี้ ที่ผ่านมาได้งานของบริษัทลูกไปรษณีย์มาแล้ว นอกจากนี้ก็จะบุกเบิกงานส่วนนี้ไปยังธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีการขยายตัวด้วย
สำหรับธุรกิจก่อสร้างยังมีงานประมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้คงจะรุกงานในส่วนของกลุ่มปิโตรเคมี เช่น งานวางท่อก๊าซให้กับกลุ่มปตท.
“งานก่อสร้างวอลุ่มใหญ่ แต่มาร์จิ้นบาง และความเสี่ยงก็เยอะ ขณะที่งานแพลตฟอร์มวอลุ่มเล็ก แต่มาร์จิ้นดี และเข้ากับยุค New Normal ด้วย”นายภาสิตกล่าว