HoonSmart.com>>”ฮาราลด์ ลิงค์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ให้สัมภาษณ์พิเศษว่า บริษัทฯได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซที่สูงขึ้นมาก เพราะยังไม่สามารถนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวมาได้ภายในปีนี้ แม้บริษัทได้สิทธิจัดหาและค้าส่ง(LNG Shipper)มาตั้งแต่ปี 2564 ก็ตาม แต่มั่นใจว่าผลประกอบการของปี 2565 จะดีกว่าปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 2,276 ล้านบาท
บริษัทมีการปรับโครงสร้าง มีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น และเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ได้เปิดโรงไฟฟ้าใหม่ ประหยัดต้นทุนได้ประมาณ 15% ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 จะเติบโตขึ้นมาก คาดว่าต้นปีจะสามารถนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวเข้ามาใช้ภายในโรงไฟฟ้าของบริษัทและจำหน่ายได้ด้วย
บริษัทยังคงมั่นใจแนวโน้มการเติบโต และเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งจำนวน 7,250 เมกะวัตต์ (MW) ในปี 2568 ถึงแน่นอน
ในปี 2565 คาดว่าจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ทั้งพลังงานลม และก๊าซ ท่ามกลางทุกประเทศอยากได้พลังงานหมุนเวียน 100%
บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายลงทุนในธุรกิจพลังงานเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องขยายการลงทุนออกไปในธุรกิจอื่นๆ เหมือนบางบริษัทในธุรกิจไฟฟ้า เพราะกลุ่มบีกริมฯมีอายุมากกว่า 100 ปี มีการลงทุนในหลายธุรกิจอยู่แล้ว
นอกจากนี้การตัดสินใจลงทุนของ BGRIM ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีกลยุทธ์ เช่น การออกไปลงทุนเมืองนอก ต้องหาคนที่อยู่ในพื้นที่ ช่วยติดต่อหาคนเก่งมาร่วมลงทุนด้วย บริษัทกำลังไปที่ประเทศโปแลนด์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 14 เมกะวัตต์ ประเทศกรีซ ขนาด 200 MW ประเทศบอสเนีย ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นการขายไฟฟ้าให้กับอุตสาหกรรม เป็นงานที่บริษัทฯถนัด ส่วนการลงทุนที่ประเทศมาเลเซีย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว รวม 88 MW ขนาด 90 MW ใกล้จะเสร็จ และขนาด 350 MW กำลังก่อสร้าง
” ในอดีตเราพูดอะไร เราทำได้อย่างที่พูด เป้าหมายที่ตั้งไว้ 7,250 MW ในปี 2568 ถึงแน่นอน แต่การเข้าลงทุนในแต่ละโครงการ ก็ต้องได้ผลตอบแทนที่ดี ถ้าเป็นไปได้ เราจะไม่ซื้อโครงการสำเร็จรูป เพราะได้มาร์จิ้นต่ำ ประมาณ 3% เราจะร่วมลงทุนกับพันธมิตร พัฒนาไปพร้อมๆกัน ยื่นขอใบอนุญาตเอง เป็นผู้บริหารและก่อสร้าง ถือหุ้น 49% จะได้มาร์จิ้นประมาณ 12% “ฮาราลด์ ลิงค์กล่าว
ส่วนกรณีที่บริษัทไฟฟ้าหลายแห่งขยายไปลงทุนในธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า( EV ) สถานีชาร์จรถไฟฟ้า “ฮาราลด์ ลิงค์” กล่าวว่า บริษัท BGRIM ก็มีความสนใจ แต่ยังรีบตัดสินใจ ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะไม่รู้ว่าเทคโนโลยีในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันมีผู้ประกอบหลายประเทศที่เก่งเรื่องเทคโนโลยี และการผลิต แต่บางบริษัทก็เก่งด้านการตลาด ถ้ามีโอกาสอยากเลือกลงทุนร่วมกับพันธมิตรที่เก่งด้าน EV
นอกจากนี้บี.กริม เพาเวอร์ ยังสนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต แม้ว่าคณะกรรมการบริษัทฯยังไม่อนุมัติให้ลงทุน แต่ส่วนตัว สนใจ และเห็นโอกาส จึงเข้าไปลงทุนก่อน ยอมรับความเสี่ยงได้ หากผลการศึกษาวิจัย เห็นโอกาสทางธุรกิจ ก็พร้อมที่จะขายหุ้นให้กับบริษัท
ล่าสุด บริษัทในเกาหลีใต้ได้มีการทดลองนำสาหร่ายมาเป็นเชื้อเพลิงงชีวภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งได้รับผลที่ดี ผมเข้าไปลงทุนแล้วเช่นเดียวกัน เป็นเชื้อเพลิงใหม่ของวงการพลังงาน หากสำเร็จ ในอนาคตพร้อมจะให้บริษัทเข้าไปลงทุนแทน
ส่วนราคาหุ้น BGRIM ที่ปรับตัวลง มองว่าเป็นโอกาสในการลงทุน จะได้ผลตอบแทนที่ดี ถ้ามั่นใจเศรษฐกิจดี นักลงทุนต้อง”อดทน” ถือลงทุนระยะยาว….