BROOK เดินหน้าผนึกพันธมิตรระดับโลก ลุยเมกะโปรเจกต์สร้างธุรกิจ Unicorn

HoonSmart.com>> “บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป” เปิดแผนปี 65 ดันโปรเจกต์ในมือหนุนบริษัทฯ ก้าวสู่ ‘Digital Asset Specialist’ ผนึกพันธมิตร Binance และบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับ Global Scale เร่งลงทุน Web 3.0 Decentralized Blockchain ลุยออกแบบโครงการ NFT จ่อผุดโปรเจกต์ใหม่ๆ พร้อมต่อยอดที่ปรึกษาธุรกิจครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัล เชื่อปีทอง BROOK Digital Asset

นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) เปิดเผยว่า สำหรับโรดแมพปี 2565 บริษัทมีแผนเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน Digital Asset Industry ด้วยรูปแบบ Project Incubator, VC, Private Equity เพื่อหาธุรกิจ Pre-ICO Decentralized Blockchain ที่มีศักยภาพ สามารถพัฒนาสู่ยูนิคอร์นแห่งยุค Web 3.0 โดยแหล่งที่มาของการเข้าลงทุนนั้นจะมาจากพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกที่มีมากมาย โดยมีพันธมิตรหลักคือบริษัท Binance ที่เป็นเจ้าตลาดอันดับหนึ่งในวงการคริปโต

ทั้งนี้ การที่ BROOK สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและโปรเจกต์ใหม่ๆ ได้เป็นกลุ่มแรกผ่านการแลกเปลี่ยนดีลต่างๆกับ Global Partners ของ BROOK เป็น Competitive Advantage มหาศาลมากๆ และยากที่บริษัทคู่แข่งจะเลียนแบบ

แผนเข้าลงทุนของ BROOK จะพุ่งเป้าไปที่โปรเจกต์ Metaverse, NFT, และ GameFi โดยร่วมกับพันธมิตรซึ่งเป็น Gaming Specialist เพื่อสร้าง Gaming Crypto Community นอกจากนี้ทางบริษัทก็ได้มีแผนออกแบบโครงการ NFT โดยตั้งเป้าหมายไว้ในระดับโลก เพื่อช่วยเหลือบริษัทไทยและศิลปินไทยให้เข้าถึงตลาด NFT Global Scale

นายวริศ กล่าวถึงเป้าหมายในการดำเนินงานปี 2565 ว่า การเติบโตของบริษัทปีนี้จะมีลักษณะเหมือน Tech Company เป็นการเติบโตแบบ S – Curve Growth บริษัทมุ่งเป้าหารายได้จากการลงทุนแหล่งใหม่ในโปรเจกต์ใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งวางเป้าให้โปรเจกต์ต่างๆเติบโตเป็นยูนิคอร์น นั่นหมายถึงบรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จะก้าวสู่การเป็น “Mother of Unicorns”

“จากจุดเริ่มต้นเมื่อมี.ค.2564 ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่า BROOK ได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์ของบจ. ไทยในตลาดหลักทรัพย์ฯที่เข้าไปลงทุนโดยตรงเป็นรายแรกใน Bitcoin และเหรียญ Defi DApps ต่างๆ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล สอดรับกับ Megatrend Digital Asset adoption ในปี 64 ที่เกิดขึ้นอย่างที่ได้คาดการณ์ไว้ บริษัทใหญ่ทั่วโลกต่างเข้ามามีส่วนร่วมใน Ecosystem เช่น Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อเตรียมทำ Metaverse เป็นต้น หรือแม้แต่แผนก Brook Digital Asset ก็พบว่าเติบโตอย่างมากจนทำให้มีนโยบายขยายทีมด้วยการเพิ่มพนักงานบริษัท Brook กว่า 100%”นายวริศ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ศึกษา การลงทุนติดตั้งระบบออกแบบพื้นที่เหมืองรวมไปถึงการซ่อมบำรุงครื่องขุด โดยร่วมศึกษากับบริษัทBitmainซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องขุดเหรียญที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนทีม Brook ได้รับ Certification ในการซ่อมบำรุงเครื่องขุดเหรียญคริปโตจาก Bitmain โดยตรง ผู้ถือ Certification ในประเทศไทยมีจำนวนน้อยมาก เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงในการเทรนนิ่งและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เข้าถึงยากและมีจำนวนจำกัด

“ภาพรวมของปี 64 ที่เดินหน้าด้านเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่าเป็นปีที่พัฒนาธุรกิจไปได้ตามเป้าของบริษัท และเชื่อว่าปี 65 จะยิ่งเพิ่มการเติบโตของบริษัทขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องไปกับเทรน Digital Asset แบบ S Curve Growth Business Model” นายวริศ กล่าว

ทั้งนี้ในปี 2565 ส่วนงานต่อเนื่องด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน ยังมีผลงานเติบโตต่อเนื่อง โดยมี Backlog Deal Size อยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการให้คำปรึกษา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ หากปัจจัยภายนอกไม่ส่งผลให้เกิดความล่าช้า หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของดีล ด้าน Digital Asset Integration บริษัทได้รับการติดต่อเพื่อแต่งตั้ง BROOK ให้เป็นที่ปรึกษา แต่ยังคงอยู่ใน ชั้นตอนการพิจารณาถึงความเหมาะสมก่อนรับงาน ในปีนี้ทางบริษัทจะยังคงติดตามและเรียนรู้ Digital Asset Trend อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจหลักในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำให้ครอบคลุม Digital Asset Integration

นายวริศ กล่าวว่า สำหรับการขอ License ที่เกี่ยวข้องกับ Digital Asset บริษัทได้ศึกษาธุรกิจโมเดลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน Broker Exchange ICO Portal และการจัดตั้งกองทุน โดยทางบริษัทได้ดำเนินการจ้าง Baker McKenzie เป็นที่ปรึกษาและสรรหาทีม Compliance ที่มีประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อศึกษาความเหมาะสมของใบอนุญาตต่างๆ รวมถึงความเหมาะสมในการยื่นเรื่องขอ License ที่จำเป็นต่อแผนธุรกิจของบริษัทในปีนี้ ทั้งนี้ทางบริษัทคาดว่านโยบายและเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลจะยังคงเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีนี้