COM7 โชว์ปี 64 กำไรพุ่ง 77% รุกพอร์ตเครื่องใช้ไฟฟ้า-บุกโมเดลนอกห้าง

HoonSmart.com>> “คอมเซเว่น” กวาดรายได้ปี 64 ทะลุ 5.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 37% กําไรกว่า 2,630 ล้านบาท พุ่งเกือบ 77% เติบโตจากสินค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ขยายสาขาทั่วประเทศ 1,000 สาขา ลั่นปีนี้เพิ่มอีก 150 สาขา พร้อมบุกโมเดล Stand Alone นำไลน์สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า 5G IoT เสริมแกร่ง ปั๊มยอดออนไลน์พุ่ง หนุนเป้าปี 65 รายได้โตอีกไม่ต่ำกว่า 20% บอร์ดเคาะจ่ายหุ้นปันผลและเงินสด รวม 1.25 บาท

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น (COM7) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึง ภาพรวม COM7 ในปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน และจะขยายสาขาในปีนี้เพิ่มเติมอีก 150 สาขา ซึ่งเป็นสาขานอกห้างแบบ Stand Alone ประมาณ 70 สาขา เป็นฐานในการเติบโต และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น รับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคเทคโนโลยี และการเข้าสู่สังคมดิจิทัล อย่างไรก็ดี ด้วยความโดดเด่นทางด้านช่องทางการจำหน่าย ทำให้วันนี้ COM7 ถือเป็นร้านค้าปลีกสินค้าเทคโนโลยีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ

สำหรับโมเดลการขยายสาขา Stand Alone เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เพิ่มความสามารถในการขยายตลาด และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่อใช้ไฟฟ้า หลังจากได้เข้าไปบริหารพื้นที่ศูนย์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจร “เพาเวอร์วัน (POWER ONE)” บริษัทในเครืออินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำนวน 30 แห่งทั่วประเทศ เป็นพอร์ตสินค้าใหม่จับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในการอยู่อาศัย และในเดือนมกราคม 2565 ได้เปลี่ยนร้าน POWER ONE ในทุกสาขาเป็นร้าน BaNANA เรียบร้อยแล้ว เพื่อผสมผสานผลิตภัณฑ์ด้านไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้ง นำสินค้ากลุ่ม 5G IoT และ Smart home เข้าไปจัดจำหน่ายเพิ่มเติม และคาดจะเห็นสาขาของ BaNANA ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้จำนวน 80 สาขา

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา COM7 ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย Sole Distributor สินค้ากลุ่ม AIOT ให้แบรนด์ Realme รวมทั้ง สินค้ากกลุ่ม Smartphone ทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ผ่านดีลเลอร์ซึ่งมีจำนวน 3,500 รายในช่วงสิ้นปี 2564 และคาดจะมี 5,000 รายในสิ้นปี 2565 เพิ่มโอกาสขยายตลาด Smartphone ในยุค 5G ที่ความต้องการผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น

รวมทั้ง การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เน้นการคัดเลือกสินค้า และการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ทรงพลังในโลกออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงส่วนของค้าปลีกและออนไลน์ในรูปแบบ Omni Channel ควบคู่การให้ความสำคัญในการทำ Data Analytics ผ่านฐานลูกค้าของ COM7 ในปัจจุบันซึ่งมีกว่า 2-3 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ ความสำเร็จของช่องทางออนไลน์ในปี 2564 ที่ผ่านมาทำนิวไฮ จึงเริ่มรุกคืบในการเจาะตลาด โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์ Apple ที่บริษัทฯ แข็งแกร่ง โดยเตรียมเปิดเว็บไซต์ studio7.com ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้

นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการสายงานขาย และธุรกิจค้าปลีก COM7 เปิดเผยถึง ความสำเร็จของผลประกอบการบริษัทฯ งวดประจำปี 2564 (สิ้นสุดธันวาคม 2564) มีรายได้รวมอยู่ที่ 51,251.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกําไรขั้นต้นอยู่ที่ 6,845.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3% กําไรส่วนของบริษัทใหญ่ 2,630.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.5% โดยเป็นการเติบโตจากสินค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 บริษัทฯ สามารถรับมือและเร่งปรับกลยุทธ์ในด้านช่องทางการจำหน่าย สร้างโอกาสในการขยายสาขาชั่วคราวในรูปแบบ Pop Up Store และ Stand Alone ซึ่ง ณ สิ้นปี 2564 มีสาขารูปแบบ Stand Alone รวมทั้งสิ้น 29 สาขา อีกทั้ง การเติบโตจากยอดขายออนไลน์ที่ทำรายได้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้ากว่า 50% หรือมีสัดส่วนประมาณ 4-5% ของรายได้จากการขายและบริการ

ทางด้านผลิตภัณฑ์ COM7 มีสินค้าครอบคลุมความต้องการของลูกค้า อาทิ สินค้ากลุ่ม Work from home , Learn from home และ Cryptocurrency ที่เติบโตขึ้น ยอดขาย iPhone ที่ขายดีทั้งในรุ่นปัจจุบัน และรุ่นก่อนหน้า รวมถึงยอดขายสินค้าใหม่แบรนด์ Apple และ Smartphone แบรนด์ชั้นนำ ที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่รับยุค 5G สนับสนุนยอดขายในไตรมาส 4 ให้เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี และโอกาสขยายพอร์ตสินค้าในปี 2565

ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 COM7 มีสาขาภายใต้การบริหารรวมทั้งหมด 1,000 สาขา แบ่งเป็น BaNANA 372 สาขา Studio7 114 สาขา KingKong Phone 83 สาขา True Shop by Com7 125 สาขา แฟรนไชส์ 128 สาขา BKK 37 สาขา iCare 30 สาขา และอื่นๆ 111 สาขา โดยมีการขยายเพิ่มจากปี 2563 อยู่ที่ 911 สาขา

เพื่อให้บริการอย่างครอบคลุม COM7 ยังได้ขยายบริการด้านสินเชื่อ U-Fund และ True Loan โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ได้ให้สินเชื่อไปแล้วราว 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การให้สินเชื่อ U-Fund แก่นักเรียนนักศึกษาที่ได้รับสิทธิซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple จำนวน 990 ล้านบาท ผ่านช่องทาง 140 สาขา และปี 2565 จะขยายการให้บริการสินเชื่อ U-Fund ผ่าน 1,000 สาขาทั่วประเทศ และ True Loan ที่ประสบความสำเร็จ ให้สินเชื่อไปกว่า 1,100 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่ม Smartphone ที่ได้รับการตอบรับที่ดี และปีนี้ จะพยายามขยายไปยังพอร์ต Non Phone มากขึ้น

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในรูปของหุ้นปันผลและเงินสดจากกำไรสะสมและกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานประจำปี 2564 โดยเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท และเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1 บาท

สำหรับหุ้นจำนวน 1,200 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวน 1,200 ล้านบาท โดยเงินปันผลส่วนหนึ่งในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท จะนำไปชำระภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับการจ่ายเงินปันผลตามอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมเป็นเงินปันผลจ่ายในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท รวมเป็นเงิน 1,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลที่จ่ายเทียบกับกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการเท่ากับ 63.58% กำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พ.ค.2565 และให้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 29 เม.ย.2565