โดย… สุนันท์ ศรีจันทรา
ช่วงต้นปี หลังจากดัชนีราคาหุ้นทะยานผ่าน 1,800 จุด สร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ของตลาดหุ้น ฝ่ายวิเคราะห์ของบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งออกมาทำนายว่า สิ้นปีนี้ดัชนีฯ จะพุ่งขึ้นไปยืนเหนือ 1,900 จุด และบางสำนักมองโลกสวยมาก ฟันธงว่า หุ้นจะทะลุ 2,000 จุด แต่ขณะนี้ ไม่มีใครพูดถึงเป้าหมายดัชนีฯ ระดับ 1,900 จุดแล้ว
เพราะอีก 3 เดือนเศษที่เหลือ แทบมองไม่ออกว่า แนวโน้มตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร สดใส ซบเซา หรือผันผวน เพราะมีปัจจัยลบกดดันมากมาย ทั้งภายในและภายนอก
หลายเดือนแล้วที่ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ภายใต้ความกังวล ผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐกับจีน ก่อนจะถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤตค่าเงินตุรกี ความล่มสลายระบบเศรษฐกิจของประเทศเวเนซูเอลา โดยอัตราเงินเฟ้อปีนี้พุ่งแล้วเกือบ 100,000% ทำให้ประเทศเกิดใหม่มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีค่าเงิน
นักลงทุนต่างชาติทยอยขายหุ้นออกตั้งแต่ต้นปี จนยอดสะสมเมื่อสิ้นวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ยอดขายสุทธิรวมทั้งสิ้น 208,706.21 ล้านบาท และไม่มีสัญญาณจะกลับมาซื้อในระยะสั้น
ส่วนปัจจัยภายใน แม้ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีจะดูดี แต่สภาพเศรษฐกิจที่ประชาชนสัมผัสกลับซบเซาสุดขีด กำลังซื้อไม่มี ธุรกิจเงียบเหงา มีแต่ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากจีดีพีที่โตเกิน 4% ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต้องซื้อเวลาโดยพยายามประคองตัวให้รอด
นอกจากนั้นสถานการณ์การเมืองยังเป็นอีกตัวแปรที่บั่นทอนความเชื่อมั่น เพราะไม่รู้ว่า การเลือกตั้งจะมีไหม มีเมื่อไหร่ ใครจะได้เป็นรัฐบาลชุดต่อไป จะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองตามมาอีกหรือไม่
ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ไม่มีปัจจัยในเชิงบวกกระตุ้นการลงทุนแต่อย่างใด มีแต่ปัจจัยลบกระทบการลงทุน จนนักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะชะลอการซื้อขายไว้ชั่วคราว จนกว่าจะประเมินทิศทางตลาดหุ้นที่ชัดเจนได้
ดัชนีหุ้นฯ ขยับขึ้นลงในกรอบแคบๆ บนฐาน 1,700 จุดมาพักใหญ่แล้ว โดยหากลงมาลึกๆ และไม่มีข่าวร้ายกระทบ จะมีแรงซื้อเข้ามา ผลักดันให้หุ้นดีดตัวขึ้น เช่นเดียวกัน หากขยับไปใกล้กว่า 1,700 จุด โดยไม่มีข่าวดีสนับสนุน จะมีแรงขายทำกำไรออกมา จะดัชนีฯ ต้องถอยลงมาตั้งหลักใหม่ เช่นเดียวกับรอบนี้ที่ดัชนีฯ ทรุดลงมาที่ระดับ1,689.49 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์หุ้นของโบรกเกอร์หลายค่าย ได้ปรับประมาณการเป้าหมายดัชนีใหม่ฯ เมื่อเทียบกับมุมมองเมื่อต้นปี โดยล่าสุดทำนายว่า ปี 2561 ดัชนีหุ้นจะจบลงแถวระดับ 1,700 จุดต้นๆ เพราะถูกฉุดด้วยปัจจัยลบรอบด้าน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นักลงทุนส่วนหนึ่งเห็นพ้อง
เพราะดูแล้วตลาดหุ้นปีนี้คงไม่สดใส และช่วงบรรยากาศแห่งความสดใส ผ่านไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี แต่แนวโน้มการลงทุนช่วงปลายปี กำลังเป็นหนังคนละม้วน เพราะข่าวดีที่เคยมีหายเงียบ ข่าวร้ายเต็มไปหมด จนนักลงทุนบางส่วนต้องถอดใจ เว้นวรรคการลงทุนชั่วคราว
ช่องทางการทำเงินจากตลาดหุ้นช่วงนี้เหมือนจะถูกปิด และโอกาสทำกำไรอาจมีน้อยกว่าความเสี่ยง เพราะไม่มีข่าวดีกระตุ้นตลาด แต่ปัจจัยลบต่างๆ พร้อมปะทุ ทำให้ตลาดหุ้นพลิกผันได้ตลอดเวลา
อาจมีหุ้นรายตัวที่ยังพอเก็งกำไรบ้าง แต่ตัวไหนละที่จะทำกำไรได้ เพราะเมื่อแนวโน้มภาพรวมตลาดหุ้นเสี่ยงที่จะปรับฐานลง หุ้นรายตัวส่วนใหญ่จึงมีโอกาสลงตามตลาด วัดดวงไปอาจไม่คุ้มเสี่ยง
นักลงทุนที่ไม่อยากเสี่ยง คงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ไปก่อน ปรับพอร์ตให้เบา มีหุ้นในมือให้น้อย เพื่อรอคอยจังหวะเหมาะ เมื่อมีสัญญาณตลาดสู่แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ ซึ่งไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
แต่ระยะสั้นสัญญาณขาขึ้นรอบใหญ่ยังไม่มี และสิ้นปีนี้ คงไม่ได้เห็นดัชนีฯ ปีนไปที่ระดับ 1,900 จุด