ตลท.กดปุ่มรับ A5 คืนสังเวียน เทรดตลาด mai 7 มี.ค.65

HoonSmart.com>>”แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป”ผงาด!  คืนสังเวียนกลับเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai ตั้งแต่ 7 มี.ค.65   ด้านผู้บริหาร “ศุภโชค ปัญจทรัพย์” ปลื้มวางเป้ายอดขายปี 65 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เปิด 3 โครงการใหม่  มูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท พร้อมตั้งการ์ดรับมือสถานการณ์โควิด-19

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป  (A5) ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  คอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรเพื่อขาย เปิดเผยว่า  ตลาดหลักทรัพย์อนุมัติให้หลักทรัพย์ของบริษัทฯ กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.2565 เป็นต้นไป  หลังจากนําส่งงบการเงินได้ภายในระยะเวลาที่กําหนด มีรายได้หลักและกําไรจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายตามเกณฑ์ รายงานของผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไข ได้ตรวจสอบระบบการควบคุมภายในของระบบงานที่สําคัญและดําเนินการแก้ไขปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว

นายศุภโชค กล่าวว่าบริษัทฯ มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยปัจจุบันมีบริษัทย่อย 2 แห่ง คือบริษัท แอสเซท ไฟว์ดีเวลลอปเม้นท์ (AFD) ที่ประกอบธุรกิจหลักที่บริษัทฯ ถือหุ้น 96.67% ของทุนเรียกชําระแล้ว และบริษัท รชยาเรียลเอสเตท (RCY)ที่ AFD ถือหุ้น 99.99%  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีกิจการร่วมค้าอีก 1 แห่งคือบริษัท ต้นสน ดีเวลลอปเม้นท์  (TONSON) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น  47.50%  ของทุนจดทะเบียนชําระแล้ว

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการใหม่รวม 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ ในกรุงเทพฯ มูลค่า 2,700 ล้านบาท และบ้านแนวราบในจังหวัดอุดรธานี 2 โครงการ มูลค่า 500 ล้านบาท วางเป้าหมายยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ 1,000 ล้านบาท โดยยอดรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งจะมาจากการขายและโอนบ้านพร้อมอยู่เฟสสุดท้ายในโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9-ศรีนครินทร์

“โครงการส่วนใหญ่ของกลุ่มบริษัทฯ เป็นอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่ก่อสร้างทีละเฟส  สามารถคาดการณ์แนวโน้มอัตราการดูดซับ รวมถึงชะลอการก่อสร้างได้ในกรณีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชะลอการตัดสินใจ ในขณะที่โครงการคอนโดมิเนียม ระดับซูเปอร์ ลักซ์ชัวรี่  ตั้งอยู่ในทําเล CBD ขายได้แล้วกว่า 80%ของยูนิตทั้งหมด และลูกค้ากลุ่มระดับซูเปอร์ ลักซ์ชัวรี่ ผ่อนชําระเงินดาวน์อย่างสมํ่าเสมอ เห็นได้ว่าผลกระทบจากสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจต่อผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ มีไม่สูงมากและสามารถบริหารจัดการได้” นายศุภโชค กล่าว

อย่างไรก็ตามผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อการดําเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลให้เกิดการปรับตัว ดังนั้นบริษัทฯ จึงให้ความสําคัญและมุ่งเน้นในการคิดค้นออกแบบสินค้าและบริการให้ตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค พร้อมกับมีการปรับในส่วนของการทํางานภายในองค์กร ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการประสานงานและเพื่อให้การทํางานสามารถบรรลุผลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น